เมียร้องเพจสายไหมต้องรอด พาตามคดี ผัวถูกวัยรุ่นนับสิบคน เอาปืนตบหัวรุมยำเละ แต่เรื่องไม่คืบหน้า คู่กรณีบอกรู้จักตำรวจ ทุกวันนี้ยังนั่งกินเหล้ากันสบายใจ

เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2565 น.ส.พนิดา สีลาลาย อายุ 44 ปี เปิดเผยว่า ภายหลังจาก ได้ไปร้องเพจ “สายไหม ต้องรอด” หลังสามีถูกกลุ่มชายวัย 30 รุมทำร้าย และใช้ปืนตีศีรษะ จนเลือดอาบ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะที่ตนและสามีเลิกงาน และได้เดินทางกลับห้องพัก

เมื่อถึงห้องพักสามีได้ขอแวะคุยกับคนรู้จักที่ใต้ตึก ส่วนตนได้เดินขึ้นห้องไป ต่อมาตนจึงโทรตามสามีและมีการพูดจากันเสียงดัง ทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่พอใจ เดินเข้ามาสองคนและเริ่มเข้ามาหาเรื่องสามี สามีจึงชกออกไป 1 ครั้ง ทำให้กลุ่มผู้ก่อที่เหลือวิ่งกันเข้ามารุมทำร้ายสามีกว่า 10 คน โดยยังมีการใช้อาวุธปืนตีที่ศีรษะของสามีหลายครั้ง ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ตนจึงรีบโทรไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจ ซึ่งขณะที่ตำรวจเดินทางมาถึง ทางกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ยังคงอยู่ในพื้น ที่โดยไม่เกรงกลัวทางตำรวจ ซ้ำยังมีการพูดจาข่มขู่ โดยอ้างว่ารู้จักกับตำรวจทุกคนในสน.ดอนเมือง ให้ไปแจ้งความดำเนินคดีได้เลย

หลังเกิดเหตุตนและสามีได้เข้าแจ้งความที่สน.ดอนเมือง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า โดยพนักงานสอบสวนยังคงให้รอผลการตรวจบาดแผลจากโรงพยาบาล ซึ่งทราบว่าทางโรงพยาบาลต้องใช้เวลาดำเนินการนานถึง 2 เดือน จึงตัดสินใจเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด

ขณะที่คู่กรณีก็ยังคงอยู่ในพื้นที่ นั่งมั่วสุมจับกลุ่มดื่มสุรากันทุกวันตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และทางตำรวจก็ไม่มีการเข้าไปจับกุมแต่อย่างใด ยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหาผิดใจกับทางกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อนเพราะไม่รู้จักกัน และไม่เคยพูดจาหารือกัน

อีกทั้งคู่กรณียังไปแจ้งความดำเนินคดีกับสามีตนในข้อหาทำร้ายร่างกาย ขณะเดินไปซื้อของก่อนจะมาเกิดเหตุ ซึ่งไม่ตรงกับหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดของการเคหะ เพราะจะเห็นว่าขณะที่สามีตนถูกทำร้ายยังยืนโทรศัพท์อยู่ ซึ่งไม่ตรงกับการที่ทางคู่กรณีกล่าวหา








Advertisement

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด จะพาผู้เสียหายไปติดตามความคืบหน้าทางคดีกับพล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน