ผกก.สภ.พนัสนิคม แจงคดีดญ.14 เสียชีวิต ไม่ใช่เหตุ ฆาตกรรมอำพราง หลังไล่เช็กวงจรปิด เชื่อ ขี่จยย.ล้มดับ
เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีเพจดัง โพสต์เรื่องราวของแม่ ที่ออกมาร้องเรียนกรณีน้องเบญ ลูกสาววัย 14 ปีเสียชีวิตปริศนาข้างทางพร้อมรถ จยย. สงสัยถูกฆ่าอำพรางศพ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ต.ค. 65 หลังผ่านมาแล้ว2เดือน คดียังไม่มีความคืบหน้า
โดยน.ส.สุพรรณี พรหมเพ็ชร์ อายุ 32 ปีแม่ของน้องเบญ และได้พาไปดูรูปของน้องเบญและได้จุดธูปบอกกับน้องเบญว่าให้มาเข้าฝันถ้าหากว่ามีคนทำร้ายหรือถูกทำร้าย เจ้าตัวเปิดเผยว่า ตนก็อยากรู้ความจริงสาเหตุการตายของลูกสาวตนเองจะผิดหรือถูกยังไงตนก็รับได้
แต่ทางตำรวจเงียบไปไม่ติดต่อหรือแจ้งสาเหตุการตายของลูกตนเลยจากที่ตนสงสัยและติดใจการตายเพราะตนเคยได้ยินลูกบ่นไม่อยากไปหรือคบกับผู้ชายคนนี้ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าใครเพราะลูกเคยบอกว่าเขาเสพยาและตนก็ได้ยินจากกลุ่มเพื่อนๆของลูกสาวว่ามีคนทำร้ายหรือเปล่ามีคนไล่ตีหรือเปล่าทำให้ตนก็ไม่สบายใจและติดใจในสาเหตุการตายของลูก
จึงมาขอความเป็นธรรมให้ลูกสาว เพราะตนมีลูกสาวเพียงคนเดียวที่ตนรักมากอยู่กัน2แม่ลูกและลูกก็บอกกับตนว่าจะตั้งใจเรียนจบมาจะช่วยทำงานซื้อบ้านให้แม่อยู่จะไดัไม่ต้องมาเช่าห้องอยู่แบบนี้และทุกวันนี้หลังเลิกงานตนก็จะเดินมาที่ห้องนอนของลูกสาวมาดูรูปและจุดธูปหาทุกวันอยากให้มาบอกหรือมาเข้าฝันว่ามีใครทำลูกหรือเปล่าแม่จะได้ขอความเป็นธรรมให้ลูกจนถึงที่สุด
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง สภ.พนัสนิคม ได้พบกับ พ.ต.อ.ถาวร นาใจเย็น ผกก.สภ.พนัสนิคม และ พ.ต.ท.วรรณกิจ บูรณ์เจริญ รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.พนัสนิคม ได้นำเอกสารภาพถ่ายหลักฐานในคืนที่เกิดเหตุและภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุมาเปิดให้ผู้สื่อข่าวดูและได้เปิดเผยว่า
คืนที่เกิดเหตุในภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพบริเวณที่เกิดเหตุเป็นแยกเนินหินในภาพจะเห็นว่า รถ จยย.ของผู้เสียชีวิตขับขี่มาด้วยความเร็วผ่านมาที่บริเวณ4แยกจะเห็นว่าคนขับขี่สวมเสื้อแขนยาวสีขาวส่วนคนซ้อนสวมเสื้อแขนยาวสีดำ
จากนั้นห่างไปไม่ไกลเป็นที่เกิดเหตุพบเป็นแยกเข้าหมู่บ้าน มีร่องรอยของการเสียหลักล้มแล้วรถ จยย. ไถลตกข้างทางในป่าหญ้าทำให้คนขับหัวกระแทกเนื่องจากไม่ได้สวมหมวกกันน๊อกจึงหมดสติไปและคนซ้อนได้รับบาดเจ็บแขนหักกู้ภัยฯได้ปฐมพยาบาลนำตัวส่งโรงพยาบาลพนัสนิคม
Advertisement
ผกก.สภ.พนัสนิคม ระบุจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุและเวลาไล่เลี่ยกันนั้นพบว่ามีเพียงรถ จยย.ของผู้เสียชีวิตขับขี่มาเพียงคันเดียวไม่มีรถอื่นตามมาหรือขับขี่ตาม
ส่วนข้อสงสัยของแม่ของผู้เสียชีวิตได้สงสัยว่าอาจจะมีรถขับขี่ตามหลังมาทำร้าย ทางด้านเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาตรวจสอบร่องรอยของรถ จยย.คันดังกล่าวไม่มีร่องรอยการเฉี่ยวหรือชนแต่อย่างใด นอกจากรอยล้มแล้วไถลตกข้างทางจนชุดสีรถแตกออกเท่านั้นเอง
ทางตำรวจยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมายแน่นอนหากแม่ผู้เสียชีวิตติดใจในข้อสงสัยไดให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนได้เลยหรือหากมีพยานหลักฐานอื่นเพิ่มเติมทางตำรวจก็จะได้เรียกมาสอบสวนเพิ่มเติมแน่นอนยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิตและแม่ของผู้เสียชีวิตแน่นอน
