อี้ แทนคุณ พาเหยื่อร้องตร.สอบทรัพย์สิน ประสิทธิ์ เจียวก๊ก เชื่อยังมีซ่อนไว้อีกเพียบ หนึ่งในผู้เสียหายเผย ถูกหลอกเงินสูญ 12.4 ล้านบาท

วันที่ 29 ธ.ค.2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ เลขานุการคณะทำงานนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยตัวแทนผู้เสียหายประมาณ 30 ราย นำเอกสารเข้าร้องเรียน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร กรณีช่วยเร่งรัด ติดตามคดีนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายหลายพันล้านบาท

เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากมีการเผยแพร่ภาพทรัพย์สิน และเส้นทางการเงิน ที่ไม่สอดคล้องกับมูลค่าความเสียหายจริง รวมถึงต้องข้อสังเกตว่ามีกลุ่มบุคคลพยายามช่วยเหลือนายประสิทธิ์ จนกระทั่งพยายามหนีระหว่างนำตัวขึ้นศาล โดยมี พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกตร. เป็นตัวแทนรับมอบเอกสาร

นายแทนคุณ เปิดเผยว่า วันนี้มาเรียกร้องใน 3 ประเด็น ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก บางรายถึงขั้นฆ่าตัวตาย บางรายไม่มีกินถึงกับต้องเข้าไปขอข้าววัดกิน รวมทั้งในเรื่องของการหลบหนีที่คาดว่าจะต้องมีกลุ่มบุคคลเข้ามาช่วยเหลือนายประสิทธิ์ มากกว่าที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาไปก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเรื่องกุญแจ ที่ทางกรมราชทัณฑ์ อ้างว่าอาจมีการอมเข้าไปไว้ในปากนั้น ไม่น่าจะเป็นข้อเท็จจริง

ส่วนทรัพย์สินที่หน่วยงานรัฐระบุว่าตรวจยึดมาได้กว่า 200ล้าน เชื่อว่าอาจจะมีการคลาดเคลื่อนกับความเป็นจริง เพราะทราบข้อมูลว่านายประสิทธิ์ได้มีการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินที่เป็นเงินสดให้อยู่ในรูปของทองคำ กระเป๋าแบรนด์เนม ซึ่งทรัพย์สินเหล่านี้ไม่ได้ปรากฏในการยึดทรัพย์ จึงกลัวว่าอาจจะมีการตกหล่น ทำให้ไม่สามารถมาเฉลี่ยทรัพย์กับผู้ที่เข้าแจ้งความตามกฎหมาย

ดังนั้นจะรอการชี้แจงความชัดเจนของการหลบหนีจากกรมราชทัณฑ์และการยึดทรัพย์ของ ปปง. โดยจะมีการนำหลักฐานเรื่องทรัพย์สินเข้าไปยื่นให้กับ ปปง.ตรวจสอบเพิ่มเติม รวมถึงอยากทราบว่าการที่ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ลาออกจากตำแหน่ง เลขาปปง. จะมีผลกระทบกับการยึดทรัพย์หรือไม่

ด้านนายสาทร หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ยอมรับว่าตนเองร่วมลงทุนไปกับนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก 12.4ล้านบาท ในรูปแบบขการลงทุนซื้อทัวร์ มัลดาวี /กองทุนท่านประธาน/สหกรณ์ออมทรัพย์ โดยนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก พร้อมทีมงานได้เข้ามาชักชวนให้ร่วมลงทุน ตั้งแต่ปี2561 -2563 ลักษณะให้ผลตอบแทนดี เช่นซื้อทอง 2 แสน ได้รับทองกลับมา1บาททันที หรือลงทุน 6 แสน ได้ทองกลับมา 3 บาท ทำให้ตนเองหลงเชื่อและได้มีการนำเงินลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งมาทราบข้อเท็จจริงว่าถูกหลอก ส่งผลให้ปัจจุบันได้รับความเดือดร้อน เพราะเงินที่นำมาลงทุนเป็นเงินเกษียณอายุ เครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงหวังว่าหากเจ้าหน้าที่มีการแบ่งทรัพย์ ก็จะได้เงินคืนประมาณ30เปอร์เซ็นต์จากที่เสียหาย

พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า ในส่วนคดีฉ้อโกงที่ บก.ปอศ. รับผิดชอบมีทั้งหมด6คดี คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วง ก.พ.2566 ส่วนทรัพย์สินที่ตรวจยึดจากกลุ่มผู้ต้องหานั้น ขณะนี้สามารถตรวจยึดได้เพิ่มเติม อยู่ระหว่างการขยายผล ตรวจเส้นทางการเงิน คาดว่าจะทราบจำนวนทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดเร็วๆนี้ ส่วนคดีการหลบหนี สน.พหลโยธิน อยู่ระหว่างการขยายผลหลังจากมีการดำเนินคดีกับนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก พร้อมพวกรวม4คน ซึ่งหากหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใครไม่มีละเว้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน