บุกโรงพักจี้จับกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายหนุ่มโคม่า รักษาตัวอยู่ 50 วันก่อนสิ้นใจ ชี้ 3 เดือนกว่าคดีไม่คืบ คู่กรณียังใช้ชีวิตอยู่กันตามปกติ ขณะที่”ผู้กำกับ”แจง รู้ตัวแล้ว 3 ออกหมายจับได้แล้วอีก 1 ยันไม่ทิ้งคดีแน่
วันที่ 27 ม.ค.2566 ที่สภ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา นายอัฑฒ์ฐนิตญ์ อายุ 41 ปี พร้อมน.ส.เกษรา อายุ 38 ปี และน.ส.กิ่งไผ่ อายุ 36 ปี พี่ชาย พี่สาว และภรรยาของนายธวัชชัย อายุ 35 ปี พากันเข้าพบ พ.ต.อ.จักรพันธ์ โอสถากันต์ ผกก.สภ.ลาดบัวหลวง เพื่อติดตามทวงถามความคืบหน้าคดีนายธวัชชัย ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายเสียชีวิตหลังผ่านมากว่า 3 เดือนแล้วไม่มีความคืบหน้า
นายอัฑฒ์ฐนิตญ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้น้องมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคู่กรณีเรื่องชู้สาวก่อนบุกเข้ามาทำร้ายพังบ้านเสียหาย ครั้งนั้นมีการตกลงยอมความพร้อมชดใช้ค่าเสียหาย ตนห่วงน้องอาจจะมีปัญหากันกับคู่กรณีอีกจึงให้ไปอยู่กับญาติจนเวลาผ่านไป 1 ปีน้องกลับมาอยู่บ้านที่อำเภอลาดบัวหลวง จากนั้นคืนวันที่ 2 พ.ย.2565 น้องขี่รถจักรยานยนต์ออกไปหาเพื่อนแล้วปรากฎว่าถูกทำร้ายมีแผลฉกรรจ์ที่ใบหน้า แขนและตามร่างกาย รักษาตัวอยู่ 50 วันก็เสียชีวิต
หลังเกิดเหตุผมสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น มีพยานให้ข้อมูลน้องถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 5-6 รุมทำร้ายจนสลบ ก่อนมีคนช่วยพาส่งรพ. 3 เดือนแล้วคดีไม่มีความคืบหน้า กลุ่มชายฉกรรจ์ยังใช้ชีวิตปกติ ทำให้ครอบครัวโดยเฉพาะแม่หวาดผวาทุกคืน คิดถึงและสงสารน้องมาก ถ้าน้องไปทำอะไรให้ไม่พอใจน่าจะแค่สั่งสอนกันก็พอ แต่ครั้งนี้มันเกินกว่าเหตุ อยากให้ตำรวจช่วยให้ความเป็นธรรมเร่งรัดจับกุมมาดำเนินคดีด้วย
ด้านพ.ต.อ.จักรพันธ์ ระบุ เราขาดพยานบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์และเห็นเหตุการณ์ แต่จากการสืบสวนแล้วเราทราบถึงตัวพยานและตามตัวมาให้ปากคำแล้วหลังหนีออกจากพื้นที่ไป
เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
ขณะนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว 3 คน ออกหมายจับได้แล้ว 1 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุมและออกหมายจับเพิ่ม ขอยืนยันว่าคดีนี้ตำรวจไม่ได้ทิ้ง ผมลงพื้นที่สอบสวนติดตามพยานมาสอบสวนด้วยตัวเอง ถ้าสืบสวนแล้วพบว่ามีใครเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีทั้งหมดตามพยานหลักฐานที่มี
