ตร.ลั่นผู้ชุมนุมก่อเหตุเลยเถิด สาดสี ปาของ รถเสียหายหลายคัน เผยอยากให้เห็นใจ ตร.ชั้นประทวน เงินน้อย เครื่องแบบเปื้อนสี เจ็บตัวอีก 1 หัวแตก

วันที่ 11 พ.ค. 66 ที่ สน.สำราญราษฎร์ พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า หลังลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายและดูแลเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ผู้ชุมนุมบุกทำลายทรัพย์สินภายในสถานีตำรวจเมื่อช่วงเย็นต่อเนื่องถึงค่ำที่ผ่านมาว่า เบื้องต้นพบว่ามีรถยนต์ของทางราชการได้รับความเสียหายหลายคัน จากการถูกสาดสีและพ่นสีสเปรย์ อีกทั้งยังพบว่ากระจกและอุปกรณ์สำนักงานภายในสถานีได้รับความเสียหายหลายจุด จนทำให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการหรือแจ้งความเหตุต่าง ๆ ไม่สะดวก ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลอยู่ระหว่างการหารือว่าจะซ่อมแซมหรือหาสถานที่รองรับการแจ้งเหตุอย่างไร

ทั้งนี้มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวผู้ชุมนุมมีพฤติการณ์การก่อเหตุที่เลยเถิดกว่าการเรียกร้องเชิงสัญลักษณ์ทางการเมือง เพราะทำให้ทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย จนประชาชนคนอื่น ๆไม่สามารถเข้ามาใช้บริการได้ อีกทั้งยังทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 นาย จากการถูกสาดสีและปลากระป๋องสีใส่บริเวณศีรษะจนเป็นแผลแตกค่อนข้างลึกต้องถูกเย็บถึง 7 เข็ม ซึ่งตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บมีหน้าที่ในการดูแลให้การช่วยเหลือประชาชนและจะต้องไปดูแลการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้

นอกจากนี้จากการสาดสีดังกล่าวยังทำให้เสื้อผ้าของตำรวจหลายนายได้รับความเสียหาย ซึ่งอยากให้ผู้ชุมนุมและประชาชนเห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวนซึ่งเงินเดือนไม่มากจะมีเครื่องแบบประจำกายเพียงไม่กี่ชุด ซึ่งทางกองบังคับการตำรวจนครบาล6 และทางสน.อยู่ระหว่างสรุปความเสียหายของเสื้อผ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับความเสียหายเพื่อจัดหาชุดใหม่มาทดแทนให้

ด้าน สิบตำรวจโท นันทนัช สุธรรม ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สน.สำราญราษฎร์ กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ได้ออกมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยภายในพื้นที่สถานีตำรวจ ซึ่งพบว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาสาดสีและทำลายทรัพย์สิน โดยระหว่างที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นมีผู้ชุมนุมสาดสีน้ำมันเข้ามาภายในสถานีและขว้างปากระป๋องสี ซึ่งภายในยังมีสีบรรจุอยู่จึงทำให้มีน้ำหนักค่อนข้างมากจนทำให้ศีรษะแตก








Advertisement

ซึ่งบาดแผลดังกล่าวยอมรับว่ามีอาการเจ็บ แต่ก็ต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่แม้ว่าตอนสวมหมวกจะกดทับที่แผลบ้างก็ตาม แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนเครื่องแบบและรองเท้าที่ใส่เมื่อคืนนี้ก็ได้รับความเสียหายจากสีน้ำมันที่ถูกสาดใส่จนไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน