พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.แถลงสรุปผลปฎิบัติการTrust No One ล่าข้ามโลก ราชาคริปโตหมื่นล้าน ปิดล้อมตรวจค้น 20 จุด

เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.

พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผบช.สอท. พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รองผบช.สอท. พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รองผบช.สอท. พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รองผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 และนายคริสโตเฟอร์ แคนเทรว(Mr.Christopher Cantrell ) ผู้ช่วยทูตฝ่ายกฎหมายสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา

ราชาคริปโตหมื่นล้าน

ร่วมกันแถลงข่าวสรุปผลปฎิบัติการTrust No One ล่าข้ามโลกราชาคริปโต ปิดล้อมตรวจค้น 20 จุด ในพื้นที่ศรีนครินทร์ และกรุงเทพกรีฑา จับกุมนายเซาเซียน ซู อายุ 31 ปี และนางคี ยิ ยี อายุ 25 ปี สองสามีภรรยาชาวจีนผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่1665-1666/2566 ลงวันที่ 26 พ.ค. ในความผิดฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ,

ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดย แสดงตนเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันฟอกเงิน พร้อมตรวจยึดของกลาง รถยนต์โรลส์-รอยซ์ ,รถยนต์เบนท์ลี่ย์,รถยนต์อัลพาร์ด รวม 9 คัน เงินสดกว่า 1.5 ล้านบาท โฉนดที่ดินบ้านจัดสรรมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท,หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดคอนโดหรูย่านสุขุมวิท 4 ห้อง ห้องละมูลค่า 128 ล้านบาท ,ตุ๊กตาแบร์บริค14 ตัว โทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 เครื่อง ไอแพค คอมพิวเตอร์แมคบุ๊ค กระเป๋าแบรนด์เนมอาทิ แอร์เมส,ซาแนล สุราต่างประเทศ รวมมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากในรอบ1 ปีที่ผ่านมาทางตำรวจได้รับแจ้ง จากระบบแจ้งความออนไลน์ว่ามีประชาชนถูกหลอกลักษณะไฮบริดสแกรม คนร้ายใช้โปรไฟล์ปลอมตีสนิท ผู้เสียหายผ่านช่องทางโซเซียลมีเดียต่างๆ ก่อนจะชวนลงทุนในแพลตฟอร์มปลอมสําหรับเทรดเงินสกุลดิจิตอลหรือ สินทรัพย์ต่างๆ ในลักษณะหลอกลงทุนไฮบริดสแกรม มีผู้เสียหายมากถึง 2 แสนคดี คิดเป็นความเสียหายกว่า 1 หมื่นล้านบาท

ราชาคริปโตหมื่นล้าน

อีกทั้งยังพบว่าในพื้นที่สน.ศาลาแดง,สน.โชคชัย และสภ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมมูลค่ากว่า 35 ล้านบาท นอกจากนี้ได้ประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ,ยูเอสซีเคร็ท เซอร์วิสและหน่วยงานกระทรวง ความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ ว่ามีผู้เสียหายจากประเทศสหรัฐอเมริกา 2 คดี และอังกฤษ 1 คดี ที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายดังกล่าว รวมมูลค่ากว่า450 ล้านบาท จึงได้ให้ทางบช.สอท.เร่งดำเนินการสืบสวน

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่าคนร้ายจะมีการโอนเข้าบัญชีของแพลตฟอร์มสําหรับเทรดเงิน ดิจิตอลแพลตฟอร์มหนึ่ง ซึ่งพบว่ามีการลงทะเบียนบัญชีโดยชาวลาว อีกทั้งบัญชี ดังกล่าวมีการใช้งานหลายประเทศ ได้แก่ พม่า ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ดูไบ ลาว ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีการใช้บ้านดังกล่าวเป็นสถานที่กบดาน จึงได้นำหมายค้นตรวจสอบ

โดยจุดที่สำคัญคือการตรวจค้นนอกจากนี้ยังตรวจสอบบ้านเลขที่ 789/16 หมู่บ้านแสนสิริ ซ.พัฒนาการ 32 แขวงและเขตสวนหลวง และ บ้านเลขที่ 55/2 หมู่บ้าน เดอะ พาลาซโซ่ ศรีนครินทร์ มีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น เนื้อที่กว่า150ตร.วา ซึ่งจุดนี้มีด้วยกัน 5 เป้าหมายแต่ละหลังมูลค่า 35-60 ล้านบาท ก่อนจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนสองคนได้ ซึ่งทำหน้าที่เป็นแอดมินตัวการใหญ่ในการถือบัญชีวอลเลทไว้คอยเทรดเงินเข้าสู่ระบบนำเงินเข้ามา และภรรยาเป็นคนกดเงิน ซึ่งบัญชีวอลเลทของคนร้ายพบว่าในระยะเวลา 3 เดือน มีเงินหมุนเวียน 450 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้มีการระงับการธุรกรรมอายัดเงินได้ 60 ล้านบาท

พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวบริษัทลองเวฟเป็นผู้ครอบครองปล่อยให้เช่าเดือนละ 3.5 แสนบาท โดยมีกรรมการบริษัทเป็นชาวจีนและชาวไทย ซึ่งเมื่อตรวจสอบที่ตั้งบริษัทพบว่ามีการใช้ร้านขายของชำเป็นที่จดทะเบียนตั้งบริษัท อีกทั้งพบว่าในส่วนคนไทยมีการจดทะเบียนในลักษณะนอมินี กว่า 47 บริษัทด้วย และมีการกว้านซื้อบ้านในรูปแบบบริษัทเพื่อให้ชาวจีนเช่าอีกกว่า 14 หลัง จึงได้ทำการตรวจสอบ

พบชาวจีน 22 คน,ชาวเมียนมา10คน ชาวกัมพูชา 1 คน และบุคคลพื้นที่สูง 1 คน พบว่าทั้งหมดมีการเดินทางเข้ามาโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว,วีซ่าบั้นปลายชีวิต และวีซ่านักศึกษา เป็นต้น ซึ่งหลังจากนี้ จะทำการตรวจสอบและขยายผลหาความเชื่อมโยงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร ในส่วนของคนไทยที่จดทะเบียนบริษัทนั้น เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนผู้ต้องหาคนจีน 2 คนนี้ถือว่าเป็นหัวหน้าขบวนการ และเป็นผู้บริหารทั้งเงินในวอเลท ส่วนภรรยาก็จะนำเงินสดไปฝากในตู้รับฝากเงินสดครั้งละ 5 หมื่นถึง 1 แสนบาท และภายในบ้านที่ซื้อไว้ใช้เป็นที่ตั้งของกลุ่มคนจีน นอกจากนั้นยังพบซิมการ์ดของประเทศเพื่อนบ้าน และสกุลเงินต่างประเทศจำนวนมาก

ส่วนสถานที่ทำงานหลักของกลุ่มนี้จะตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้ไทยเป็นที่พักอาศัย ครั้งนี้จึงถือว่าเป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยง และจับผู้ต้องหาในระดับกลุ่มผู้บริหารได้ รวมทั้งยังพบความเชื่อมโยงกับเงินในกลุ่มคอลเซนเตอร์และอื่นๆ อีกจำนวนมาก อย่างไรก็ตามได้ให้ทางบช.สอท. ขยายผลความเชื่อมโยงกับคดีอื่นๆ

ทางตำรวจสอท.ก็จะเก็บข้อมูลไว้เชื่อมโยงกับคดีอื่นๆ ที่ยังอยู่ระหว่างการสืบสวน ทั้งนี้มีรายงานว่าระหว่างที่มีการแถลงข่าวนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เดินทางมาร่วมรับฟังการแถลงข่าวในครั้งนี้โดยเจ้าตัวได้มีการสอบถามทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติถึงมาตรการในการป้องกันและปราบปรามคนจีนที่เข้ามากระทำความผิดในประเทศไทย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีมาตรการในการเฝ้าระวังและสืบสวนปราบปราม เน้นย้ำหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย อาทิ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบคนจีนที่เข้ามากระทำความผิดในประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการ ประสานทางการจีนในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและนำมาซึ่งการจับกุมชาวจีนที่มีหมายจับจากประเทศจีนที่เข้ามากบดานในประเทศไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน