ตำรวจ สิงห์บุรี เร่งล่าตัว ผัวหึงโหด ดักทุบเมียดับหลังเลิกงาน ทิ้งร่างริมถนน ลูก 4 คนกำพร้า ด้าน กัน จอมพลัง ยื่นมือช่วย ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวเข้าดูแลแล้ว
จากกรณี นายณรงค์วิทย์ เพชรศรีเมือง ดักทำร้ายร่างกาย น.ส.ศิริวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นภรรยา จนบาดเจ็บสาหัสนอนอยู่บริเวณถนนเส้นวัดพระนอนจักรสีห์ ม.2 ต.จักรสีห์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ก่อนจะไปเสียชีวิตหลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ตำรวจ สิงห์บุรี เร่งล่าตัว ผัวหึงโหด ดักทุบเมียดับหลังเลิกงาน ทิ้งร่างริมถนน ลูก 4 คนกำพร้า
ล่าสุดวันที่ 5 มิ.ย.2566 หลังจากที่ นายเจตนา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี น้องชายผู้เสียชีวิตได้ขอความช่วยเหลือจาก นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ห่วงว่าพี่สาวจะตายฟรี และหลานทั้ง 4 คนจะกำพร้า เพราะพ่อฆ่าแม่และหลบหนีไป อยากให้ช่วยเด็ก ๆ ในเรื่องของการศึกษา พร้อมกล่าวว่า ตนกับพี่สาวสนิทกันมาก พี่สาวอยู่กับพี่เขยมาประมาณ 15 ปี พี่เขยติดเหล้ามานาน จนเมื่อประมาณ 4 เดือนที่ผ่านมา มีการทะเลาะกันเรื่องหึงหวง
นายเจตนา กล่าวต่อว่า พี่เขยเคยพูดกับตนว่า “เดี๋ยวจะฆ่าพี่สาวของตน” ตนก็ไม่คิดว่าพี่เขยจะคิดจริง จนพี่เขยออกจากงานมา พอเมาก็จะไปดักไปโวยวายที่ทำงานพี่สาวทุกวัน จนถึงวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา พี่เขยได้ทำร้ายพี่สาวจนเสียชีวิตใน 2 วันต่อมา
ต่อมาเวลา 10.30 น. กัน จอมพลัง เดินทางมาที่ สภ.เมืองสิงห์บุรี โดยได้ติดต่อตัวแทนสำนักงานยุติธรรมจังหวัดสิงห์บุรี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ นายวิทยา ยางสุด ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสิงห์บุรี โดยมี พ.ต.อ.ไพฑูร ตันเจริญรัตน์ ผกก.สภ.เมืองสิงห์บุรี ร่วมหารือในการช่วยเหลือลูกชายทั้ง 4 คนของผู้เสียชีวิต
นายกัณฐัศว์ กล่าวภายหลังการหารือ ว่า ตนได้คุยกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ที่พ่อทำร้ายแม่จนเสียชีวิต ทำให้ลูกชายทั้ง 4 คน ต้องเป็นกำพร้า และอยู่ในวัยกำลังเรียน เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นผู้ส่งเสียดูแลลูก ๆ ทั้ง 4 คน เพียงคนเดียว อีกทั้งเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของครอบครัวผู้เสียชีวิต เนื่องจากพ่อได้พูดขู่ไว้ด้วยว่า จะวนกลับมาทำร้ายแม่ของผู้เสียชีวิตอีกด้วย
นายณรงค์วิทย์ เพชรศรีเมือง ผู้ต้องหา
นายกัณฐัศว์ กล่าวต่อว่า ตนจึงประสานกับ ผกก.สภ.เมืองสิงห์บุรี ซึ่งท่านได้ให้ความช่วยเหลือเต็มที่ และให้ความมั่นใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตว่า จะไม่มีใครมาทำร้ายคนในครอบครัวผู้เสียชีวิตได้ และจะนำตัวคนร้ายมาลงโทษโดยเร็ว ส่วนการศึกษาตนได้ประสานกับ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รักษาการรมว.ศึกษาธิการ ซึ่งท่านได้ส่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสิงห์บุรี มาช่วยในวันนี้ เพื่อให้น้อง ๆ ได้ไปต่อกับเรื่องการเรียนหนังสือ เพราะครอบครัวที่ถูกกระทำก็ไม่ควรถูกกระทำซ้ำเติมอีก
นายกัณฐัศว์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังประสาน นายอนุกูล ปีดแก้ว รักษาการ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ท่านได้ส่งเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสิงห์บุรี มาช่วยเหลือน้อง ๆ ในครั้งนี้ ได้วางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายในการกินอยู่ต่าง ๆ ก็ยังสามารถช่วยเหลือส่งไปยังโรงเรียนประจำของกระทรวงฯ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและได้เรียนต่อ
นายกัณฐัศว์ กล่าวด้วยว่า และยังประสานสาธารณสุขในการเยียวยาจิตใจทั้งเด็ก ๆ แม่ และยายของผู้เสียชีวิตที่ร้องไห้ตลอดเวลาเมื่อมีใครพูดถึงเรื่องการเสียชีวิตของ น.ส.ศิริวรรณ ส่วนสำนักงานยุติธรรม จ.สิงห์บุรี ก็มีในเรื่องของเงินเยียวยาให้กับทายาทของผู้เสียชีวิตอีกด้วย สุดท้ายฝากถึงคนร้ายที่เป็นพ่อของเด็ก ถ้าดูอยู่พ่ออย่าหนี ทำเป็นตัวอย่างที่ดีให้กลับมารับโทษ รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไป
ด้าน นางวันนา แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตอนนี้หลังจากที่นายกัณฐัศว์ลงพื้นที่มาช่วยเหลือ รู้สึกดีใจและขอบคุณเป็นอย่างมาก ตอนนี้ลดความกังวลใจไปได้มากในเรื่องการได้เรียนต่อของหลานทั้ง 4 คน ส่วนสภาพจิตใจของหลาน ๆ ยังแย่กันอยู่ กอดกันร้องไห้ทุกคืน แม่ไม่กลับมาแล้วพวกเราจะอยู่กับใคร เพราะตอนเย็นพวกเขาเคยได้กอดกันทุกวัน ทำกับข้าวกินกันตามประสาแม่ลูก แล้วตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว
นางวันนา กล่าวต่อว่า แม่กับยายก็ยังทำใจไม่ได้ ให้ตนตายแทนลูกสาวยังดีกว่า เพราะตนแก่แล้ว หลาน ๆ จะได้ไม่ต้องมากำพร้าแม่แบบนี้ ตนอยากถามคนร้ายว่าทำไมใจร้ายทำร้ายเมียตัวเองได้ลงคอ ลูก ๆ ก็เยอะ ทำไมถึงต้องทำร้ายกันถึงตายเลยหรือไง
จากนั้น นายกัณฐัศว์ได้เดินทางไปที่วัดขุนสงฆ์ ม.11 ต.บางระจัน อ.ค่ายบางระจัน ซึ่งเป็นที่ตั้งศพของ น.ส.ศิริวรรณ ก่อนที่จะเดินทางกลับ
