สายไหมต้องรอด พาเหยื่อ เอฟ นารากะ เข้าแจ้งความ ที่ สน.เตาปูน

สายไหมต้องรอด พาข้าราชการสาวผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สน.เตาปูน เอาผิด เอฟ นารากะ หนุ่มรักลวง พบมีคดีติดตัวอีก7 คดี มีเหยื่อโผล่อีกที่จังหวัดตรัง โดยศาลได้ออกหมายจับมิจฉาชีพรายนี้ไว้แล้ว

เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 19 ก.ค. ที่ สน.เตาปูน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ “สายไหมต้องรอด” พาผู้เสียหายเป็นข้าราชการสาววัย 37 ปี ถูกมิจฉาชีพแฝงตัวมาในแอพฯหาคู่ หลอกให้รัก อ้างตัวเป็นนักเทรดหุ้นจะช่วยเคลียร์หนี้สหกรณ์ 8 แสนบาท

โดยออกอุบายให้กู้เงินแบงก์ออกรถเก๋ง 2 คันแล้วเอาไปจำนำ ส่งผลให้ข้าราชการสาวตกเป็นหนี้เกือบ 5 ล้านบาท ในเวลาแค่ 3 เดือน หนำซ้ำถูกทำร้ายร่างกาย ข่มขู่จะเอาคลิปลับไปประจาน ซึ่งได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ไปเมื่อวานนี้ (18 ก.ค.) ก่อน “บิ๊กโจ๊ก” จะรับเรื่อง พร้อมประสาน พ.ต.อ.สุรเดช ฉัตรไทย ผกก.สน.เตาปูน ให้ดำเนินการช่วยเหลือในคดีนี้

เข้าพบ พ.ต.ต.อิทธิกร ตรีประภากร สว.(สอบสวน)สน.เตาปูน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายทิวา อายุ 41 ปี หรือ “เอฟ นารากะ” ชาวจังหวัดพัทลุง ในข้อหา ยักยอกทรัพย์, ฉ้อโกงทรัพย์, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และทำร้ายร่างกาย

นายเอกภพ กล่าวว่า ภายหลังจากกรณีของข้าราชการสาวเป็นข่าวออกไป ปรากฏว่า ตนได้รับข้อมูลจากผู้เสียหายรายหนึ่ง ซึ่งเป็นข้าราชการครูในจังหวัดตรัง ให้ข้อมูลว่า ถูกผู้ต้องหารายนี้กระทำการในลักษณะเดียวกัน โดยหลอกลวงว่า เป็นนักเทรดหุ้นและมีความเชี่ยวชาญจะมาช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้สินให้

ก่อนจะออกอุบายให้ตนไปซื้อรถจนกลายเป็นหนี้สิน รวม 8 ล้านบาท ต้องสูญเสียที่ดินและเป็นหนี้สินจากการออกรถในชื่อตัวเองจำนวน 5 คัน คบหากันเพียง 3 เดือนเช่นกัน โดยผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายทิวา ข้อหา ยักยอกทรัพย์ และศาลแขวงตรัง มีคำสั่งออกหมายจับที่ จ.34/2566 ลงวันที่ 4 เม.ย.66 ในคดีดังกล่าวแล้ว

สำหรับคดีของข้าราชการสาวรายนี้ ภายหลังเข้าร้องเรียนกับทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ท่านได้กำชับให้ฝ่ายสืบสวน สน.เตาปูน ติดตามรถของผู้เสียหายจำนวน 2 คัน ที่นำไปจำนำเพื่อให้ได้รถคืนมาก่อน จากนั้นถึงจะมีการเจรจาว่าจะชำระเงินอย่างไร เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ข้าราชการสาวรายนี้ต้องกลายเป็นบุคคลล้มละลาย เพราะจะมีผลต่อการรับราชการ

จึงขอฝากเตือนผู้หญิงหรือผู้ปกครองที่มีบุตรหลาน ขอให้สอดส่องดูแลการใช้ แอพฯ หาคู่เพราะใน แอพฯ เหล่านี้ มีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวอยู่จำนวนมาก จึงต้องพิจารณาให้ดี อย่าหลงเชื่อคนง่าย