สาวใหญ่ซีด กุเรื่องถูกโจรปล้นรถจยย.หาย ไล่กล้องวงจรปิดไม่พอมีเหตุ เค้นสอบรับสารภาพลูกชายขับรถไปซื้อยาเสพติดจนรถจยย. ตั้งใจสร้างเรื่องเหตุกลัวน้องชายที่เป็นเจ้าของรถด่า สุดท้ายโดนดำเนินคดี
วันที่ 18 ก.ย.66 พ.ต.อ.วุฒิไกร จตุรงค์เสรีกุล ผกก.สน.หลักสอง จับกุมนางนงเยาว์ อายุ 50 ปี ฐานแจ้งความเท็จ ภายหลังเมื่อเวลาประมาณ 23.08 น. วันที่ 17 ก.ย. 2566ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.หลักสอง รับแจ้งเหตุปล้นทรัพย์กลางซอยพุทธมณฑลสาย 2 ซอย 11 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบนางนงเยาว์ ให้การว่า ถูกคนร้ายและพวกใช้ยานพาหนะเป็นรถจักรยานยนต์ 2 คันมาด้วยกันทั้งหมด 4 คน คันผู้ก่อเหตุเป็นชายและหญิงใช้ยานพาหนะรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ PCX จำสีไม่ได้ ชายแต่งตัวเสื้อยืดแขนยาวสีดำกางเกงยีนส์ขายาวสวมหมวกกันน็อคเต็มใบส่วนหญิงที่มากับคนร้ายจำการแต่งกายไม่ได้
คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์มาประชิดและได้ใช้อาวุธคล้ายอาวุธปืนจี้ที่เอวตนที่มากับลูกชาย พร้อมกับข่มขู่ให้หยุดรถ จากนั้นคนร้ายซึ่งเป็นผู้ชายจึงได้นำรถจักรยานยนต์ขับขี่หลบหนีมุ่งหน้าหลังวัดบุณยประดิษฐ์ ทะลุถนนนครลุง ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุคนอื่นๆมุ่งหน้าหลบหนีออกทางสาย 2 ซอย 7 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบไล่ภาพกล้องวงจรปิดของฝ่ายสืบสวน ไม่พบการเกิดเหตุดังกล่าว จึงได้มาสอบปากคำ นางนงเยาว์ ผู้แจ้งเพิ่มเติม ผลปรากฎว่านางนงเยาว์ รับว่าได้กุเรื่องดังกล่าวขึ้น โดยอ้างว่า เรื่องจริงรถ จยย. ได้หายไปตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.66 ที่ผ่านมา และ รถจยย.หายเนื่องจากนายตี๋ ลูกชายขับไปซื้อยาเสพติดแถวบางแวก แล้วรถจยย.หาย ซึ่งนางนงเยาว์กลัวเจ้าของรถซึ่งเป็นน้องชายตำหนิ จึงได้กุเรื่องดังกล่าวขึ้น
พนักงานสอบสวน สน.หลักสอง จึงแจ้งข้อหา “แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่น หรือประชาชนเสียหาย และรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงาน สอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทำความผิด เพื่อนำส่งพนักงานอัยการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
