ทนายพัช จำเลยร่วม คดี ‘แอม ไซยาไนด์’ ไม่หวั่นตรวจหลักฐาน คดีฆาตกรรมก้อย มั่นใจไม่แพ้ฝั่งโจทก์ เชื่อพยานแวดล้อม-ประจักษ์พยาน ไม่พอเอาผิดได้
เมื่อวันที่ 2 ต.ค.66 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลตรวจพยานหลักฐานในคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง น.ส.สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม ไซยาไนด์ ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น และอีกหลายฐานความผิด, พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามีของแอม และ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณรัตน์ ทนายความของแอม จำเลยที่ 3 ในความผิดฐานร่วมกันทำลายหลักฐาน เพื่อช่วยเหลือจำเลยที่ 1 กรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือก้อย ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี
โดยในวันนี้ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ เบิกตัว น.ส.สรารัตน์ มาจากทัณฑสถานหญิงกลาง
น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณรัตน์ หรือ ทนายพัช กล่าวก่อนที่จะขึ้นไปตรวจพยานหลักฐานว่า วันนี้ตนมาในฐานะจำเลยและทนายความร่วม ซึ่งก็มีความมั่นใจในพยานหลักฐานไม่แพ้ฝั่งโจทก์ โดยหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะนำมาต่อสู้คือใบบันทึกประจำวัน เรื่องที่ตำรวจ กก.5 บก.ป.สั่งซื้อไซยาไนด์ผ่านช่องทางออนไลน์ ไว้ตามตำแหน่งต่างๆ ก่อนจะเข้าตรวจค้น เพื่อให้มีหลักฐานทางคดี
ทั้งนี้ เชื่อว่าศาลจะต้องยกประโยชน์ให้กับจำเลย เพราะฝั่งโจทก์มีพยานแวดล้อมและประจักษ์พยานมีไม่เพียงพอที่จะเอาผิดได้ นอกจากนี้ ทราบว่าหนึ่งในผู้เสียหายรายหนึ่งที่อยู่จังหวัดนครปฐมถอนฟ้องไปแล้ว ซึ่งก็ขอความแสดงยินดีด้วย
ในส่วนประเด็นที่ฝั่งโจทก์มีความมั่นใจในเรื่องของพยานหลักฐานนั้น มองว่าอยากให้แม่ของก้อยเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมให้ได้ก่อน หากเข้ามาไม่ได้ ก็จะไม่สามารถทำอะไรตนได้ รวมไปถึงเรื่องที่จะเรียกค่าเสียหายด้วย
