แม่ช็อก โทรหาลูกไม่ติด ก่อนพบเป็นศพถูกยิงเบ้าตา ซุกห้องนอนบ้านนายจ้าง เผยเศร้า ลูกป่วยเป็นโรคแพนิค-โรคซึมเศร้า ญาติ เผยข้อมูลสำคัญ ตำรวจเร่งตามล่าตัว

วันที่ 29 พ.ย.2566 พ.ต.ท.ธนาธร พันธุ์ชู สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุพบศพถูกฆาตกรรมทิ้งไว้ในห้องนอนที่บ้าน 2 ชั้น ซอยบ้านในสวน ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ รุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจชุดสอบสวน แพทย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเต็กก่าจี้คุงเกาะ หรือ กู้ภัยนคร

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น ชั้นล่างไม่มีคนอาศัย บนชั้น 2 ภายในห้องนอนพบศพ นายกีรติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี สภาพใบหน้าใต้ตาข้างซ้ายมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด 1 นัด ที่โหนกแก้มซ้ายและนิ้วนางซ้ายมีบาดแผลถูกของมีคม สวมใส่กางเกงขาสั้นตัวเดียว ไม่สวมเสื้อ เสียชีวิตมาแล้วกว่า 12 ชั่วโมง นอกจากนี้ บนที่นอนพบโทรศัพท์ชาร์จไว้

แม่ช็อก โทรหาลูกไม่ติด ก่อนพบเป็นศพถูกยิงเบ้าตา ซุกห้องนอนบ้านนายจ้าง เผยเศร้า ลูกป่วยเป็นโรคแพนิค-โรคซึมเศร้า

แม่ช็อก โทรหาลูกไม่ติด ก่อนพบเป็นศพถูกยิงเบ้าตา ซุกห้องนอนบ้านนายจ้าง เผยเศร้า ลูกป่วยเป็นโรคแพนิค-โรคซึมเศร้า

จากการสอบถาม น.ส.ปราณี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี แม่ของผู้ตาย กล่าวว่า ลูกชายป่วยโรคแพนิคและโรคซึมเศร้าซึ่งต้องรับยา บ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านของนายจ้างให้อาศัยอยู่ ก่อนพบศพตนไปทำธุระที่บ้าน อ.ลานสกา และติดต่อลูกไม่ได้เลย

น.ส.ปราณี กล่าวต่อว่า ญาติโทรศัพท์ไปก็ไม่รับสาย จึงมารับตนที่ อ.ลานสกา ให้มาดู ก็พบว่าบ้านถูกล็อกอยู่ ญาติจึงใช้บันไดปีนขึ้นไปทางระเบียงชั้น 2 เมื่อเข้าไปก็พบว่าลูกชายเสียชีวิตอยู่ในสภาพถูกยิงและถูกทำร้ายแล้ว และลูกชายไม่เคยเล่าเรื่องมีปัญหาอะไรกับใคร

ด้าน ญาติและเพื่อนสนิทที่มาช่วยเรียกและตามหานายกีรติ กล่าวว่า พบกันครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อกันได้ จนกระทั่งไปรับแม่ของนายกีรติมาดู จึงพบว่าเสียชีวิต และยังให้ข้อมูลสำคัญกับเจ้าหน้าที่ว่า ช่วงค่ำวันของวันที่ 25 พ.ย. ขณะที่นอนอยู่ในห้องใกล้กัน ได้ยินเสียงมีคนขับรถมาหาแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร และไม่ได้สงสัยอะไร จนกระทั่งติดต่อนายกีรติไม่ได้ จึงพยายามค้นหาจนพบว่าถูกยิงเสียชีวิตอยู่ในห้อง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียด เพื่อหาร่องรอยของบุคคลที่เข้ามาในห้องที่เกิดเหตุ ขณะที่ชุดสืบสวนออกติดตามรวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดจากบริเวณใกล้เคียง เพื่อค้นหารูปพรรณผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุ อย่างเร่งด่วนแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน