นักเรียนช่าง ปล้นมือถือ เด็ก 17 อ้างอยากเช็กด้วยเรียนที่ไหน ก่อนหน้านี้เคยโดนทำร้าย จึงก่อเหตุ ตร.ส่งตัวพร้อมของกลาง ดำเนินคดีตามกฎหมาย

เมื่อเวลา 00.20 น. วันที่ 3 ธ.ค.2566 พ.ต.อ.ศิวัช ศรีวิชัย ผกก.สน.บางชัน, พ.ต.ท.ชนายุส เอื้อธีรวีร รอง ผกก.สส.สน.บางชัน สั่งการให้ พ.ต.ท.เพิ่มสกุล นิลขำ สว.สส.สน.บางชัน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.บางชัน ร่วมจับกุม นายเอ นามสมมุติ อายุ 17 ปี นายบี นามสมมุติ อายุ 17 ปี และ นายซี นามสมมุติ อายุ 17 ปี พร้อมของกลาง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ซองปืน 1 ซอง มีดปลายแหลม ด้ามสีดำ 1 เล่ม มือถือ 1 เครื่อง

รถจักรยานยนต์ YAMAHA ไม่ติดทะเบียน 1 คัน หมวกนิรภัยแบบเต็มใบ 2 ใบ หมวกนิรภัยแบบครึ่งใบ สีดำ 1 ใบ ชุดเครื่องแต่งกายที่ผู้ถูกจับสวมใส่ในขณะก่อเหตุ จับกุมได้บริเวณเพิงพักข้างบ้านเลขที่ 27 ภายในชุมชนสามแยกคลองหลอแหล ซอยราษฎร์พัฒนา 10 แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสน.บางชัน รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 มีเหตุชิงทรัพย์ที่ปากซอยราษฎร์พัฒนา 7 แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร เดินทางตรวจสอบพบ เยาวชน อายุ 17 ปี ผู้เสียหาย ให้ข้อมูลว่าเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. เวลาประมาณ 21.00 น. ที่ผ่านมา ระหว่างขี่รถจักรยานยนต์จากแยกแว็กซี่มาตามเส้นทางถนนราษฎร์พัฒนา มุ่งหน้าไปทางรามคำแหง

เมื่อขับมาถึงบริเวณปากซอยราษฎร์พัฒนา 7 แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร มีชายไทยไม่ทราบชื่อและนามสกุล สวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบและชายนั่งซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัยแบบครึ่งใบ ทั้งคู่อายุประมาณ 18 ปี ขับมาตีคู่กับรถจักรยานยนต์ของตนและถามว่า “เรียนไหน” โดยตนตอบว่า “ไม่ได้เรียน”

จากนั้นชายคนดังกล่าวลงจากรถจักรยานยนต์แล้วใช้มือผลักและชกต่อยตน 1 ครั้ง ก่อนหยิบโทรศัพท์มือถือของตนไปด้วย จึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งกับศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้น และแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.บางชัน

หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ และเส้นทางที่คาดว่าจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี และทำการสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์อย่างกระชั้นชิด จนทำให้ทราบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีเข้าไปในชุมชนสามแยกคลองหลอแหล ซอยราษฎร์พัฒนา 10 แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร

ตรวจสอบในชุมชน พบผู้ต้องหาทั้ง 3 คนกำลังนั่งมั่วสุม อยู่บริเวณเพิงพักในชุมชนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พบรถจักรยานยนต์ใช้ในการก่อเหตุ จึงแสดงตัวแต่กลุ่มผู้ถูกจับพยายามหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้








Advertisement

ผลการตรวจค้นพบปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก บรรจุอยู่ในซองปืน ซุกซ่อนอยู่บริเวณช่องข้างเก้าอี้ภายในเพิงพักดังกล่าว, มีดปลายแหลม 1 เล่ม วางอยู่บนโต๊ะ โทรศัพท์มือถือผู้เสียหายซุกซ่อนอยู่บริเวณช่องเก็บของหน้ารถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ และพบเครื่องแต่งกายที่ใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งผู้ถูกจับสวมใส่อยู่

สอบถามผู้ถูกจับให้การรับว่า ร่วมกันปล้นทรัพย์โทรศัพท์มือถือจากผู้เสียหายจริง โดยใช้ปืนและมีดในการก่อเหตุ อ้างว่าเคยถูกผู้เสียหายพร้อมเพื่อนทำร้ายในลักษณะดังกล่าว และต้องการเช็กด้วยว่าผู้เสียหายเรียนที่ใด เนื่องจากเพื่อน 1 ใน 3 เป็นนักเรียนช่างเทคนิคแห่งหนึ่งย่านมีนบุรี

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา“ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และโดยมีหรือใช้อาวุธปืน, ร่วมกันมีอาวุธปืน (อาวุธปืนไทยประดิษฐ์) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพกพาอาวุธ (มีดและปืน) ไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควรแก่พฤติการณ์”

โดยผู้ถูกจับทั้งสามคนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน