จับแล้ว ฆ่าโหดหนุ่มใหญ่ ที่แท้ฝีมือเมีย-ลูกเลี้ยง เปิดปากสารภาพลูกสาวแทงไม่ยั้ง 7 แผล ก่อนนำศพทิ้งอำพรางศพ เผยปมแค้นสะสมเป็นเวลานาน

วันที่ 10 ธ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี ร.ต.อ.เอก แซงเพชร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ รับแจ้งเหตุพบคนเสียชีวิตบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยแฮด ระหว่างบ้านนา-บ้านโพธิ์ ต.ซำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ หลังรับแจ้งจึงได้รายงาน พ.ต.ท.เสกสรรค์ อุทโท รอง ผกก.สอบสวน รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ ทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบศพ นายสถาพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี สภาพสวมกางเกงขาสั้นสีกรมท่า เสื้อยืดแขนสั้นสีเลือดหมู มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคม บริเวณต้นคอด้านซ้ายเป็นแผลลึก บาดแผลถูกแทงตามหน้าอก และแผ่นหลัง ไม่ต่ำกว่า 5 แผล

จับแล้ว ฆ่าโหดหนุ่มใหญ่ ที่แท้ฝีมือเมีย-ลูกเลี้ยง เปิดปากสารภาพลูกสาวแทงไม่ยั้ง 7 แผล ก่อนนำศพทิ้งอำพรางศพ

จับแล้ว ฆ่าโหดหนุ่มใหญ่ ที่แท้ฝีมือเมีย-ลูกเลี้ยง เปิดปากสารภาพลูกสาวแทงไม่ยั้ง 7 แผล ก่อนนำศพทิ้งอำพรางศพ

ต่อมา พ.ต.อ.ฉัตรพัฒน์ แก้วจันดี รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาข้อมูลพยานแวดล้อม เบื้องต้นได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางระหว่าง ต.โพนข่า มายังจุดที่เกิดเหตุ เนื่องจากเป็นเส้นทางที่มีความเชื่อมโยงกันว่าผู้เสียชีวิต จะถูกฆ่ามาตั้งแต่จุดอื่น แล้วนำศพมาทิ้งที่จุดนี้หรือไม่

ล่าสุดเมื่อเวลา 23.15 น. วันที่ 9 ธ.ค.2566 ที่สภ.เมืองศรีสะเกษ พ.ต.ท.เสกสรรค์ สั่งการให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำ นางภูริชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ภรรยาของนายสถาพร ซึ่งถูกคนร้ายใช้มีดแทงตายอย่างเหี้ยมโหด

หลังจากที่ นางภูริชา ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนางเพ็ชรทิม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ลูกสาวของนางภูริชา, นายธนโชค อายุ 21 ปี ลูกชายคนเล็กของนางภูริชา และนายพีรพัฒน์ อายุ 21 ปี เพื่อนของนายธนโชค ได้ร่วมกันฆ่า นายสถาพร ถึงแก่ความตาย เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.00-03.00 น.ของวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากนั้น ได้นำศพนายสถาพรมาทิ้งไว้ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยแฮด เพื่ออำพรางคดี โดยมี นายประเสริฐ กาลพัฒน์ ทนายความชื่อดัง ร่วมรับทราบการสอบปากคำด้วย








Advertisement

พ.ต.ท.เสกสรรค์ กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนได้นำนางภูริชา ซึ่งเป็นภรรยาของนายสถาพร นางเพ็ชรทิม ลูกสาวของนางภูริชา และนายธนโชค ลูกชายคนเล็กของนางภูริชา โดยนางเพ็ชรทิม และนายธนโชค เป็นลูกเลี้ยงของนายสถาพร และนายพีรพัฒน์ อายุ 21 ปี เพื่อนของนายธนโชค มาสอบสวน แต่ปรากฏว่าให้การไม่ตรงกัน

พ.ต.ท.เสกสรรค์ กล่าวต่อว่า พนักงานสอบสวนจึงได้ทำการแยกสอบสวน สุดท้ายทั้ง 4 คน ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันฆ่านายสถาพรจริง โดยขณะเกิดเหตุเป็นเวลาประมาณ 01.00-03.00 น.ของวันที่ 8 ธ.ค. โดยก่อนเกิดเหตุนายสถาพรได้นำเอารถยนต์ไปซ่อม

พ.ต.ท.เสกสรรค์ กล่าวอีกว่า จากนั้น นายสถาพรได้ดื่มสุราจนมึนเมากลับมาบ้าน และได้มีปากเสียงดุด่านางภูริชา ซึ่งเป็นภรรยาของตนเองด้วยความหึงหวง เนื่องจากว่า นางภูริชาเป็นคนหน้าตาดีมีเสน่ห์ ทำให้นายสถาพรหึงหวงมาก และมักจะดุด่าเมียของตนเป็นประจำ

พ.ต.ท.เสกสรรค์ กล่าวด้วยว่า ซึ่งหลังจากนายสถาพร ด่าว่านางภูริชาอย่างรุนแรงแล้ว ได้เข้าไปนอนในห้องนอน ซึ่งด้วยความโกรธสะสมมาเป็นเวลานานที่โดนด่าว่าเป็นประจำ นางภูริชาจึงได้เข้าไปในห้องนอนและได้ใช้มือกดไหล่ของนายสถาพรเอาไว้ ส่วนนายธนโชคลูกชายคนเล็กของนางภูริชา ได้จับขาของนายสถาพรเอาไว้

พ.ต.ท.เสกสรรค์ กล่าวว่า ต่อมานางภูริชาปวดแขน จึงได้ให้นายพีรพัฒน์ เพื่อนของนายธนโชค มาจับแขนและกดหัวไหล่ของนายสถาพรเอาไว้ จากนั้น นางเพ็ชรทิมลูกสาวของนางภูริชาเป็นคนขึ้นคร่อมร่างของนายสถาพรเอาไว้ ใช้มีดที่นำมาจากบ้านแทงนายสถาพรอย่างไม่ยั้งที่บริเวณหน้าอกประมาณ 7 แผล จนทำให้นายสถาพรเสียชีวิตคาที่

พ.ต.ท.เสกสรรค์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นได้นำเอาที่นอนห่อร่างของผู้ตายนำขึ้นไปใส่ท้ายรถเก๋ง ยี่ห้อนิสสัน ทะเบียน กท9204 ศรีสะเกษ นำศพของนายสถาพรไปทิ้งไว้บริเวณสะพานอ่างเก็บน้ำห้วยแฮด และนายธนโชคได้นำมีดอาวุธสังหารไปทิ้งลงไปในห้วยซัน

พ.ต.ท.เสกสรรค์ กล่าวด้วยว่า ซึ่งในวันที่ 10 ธ.ค.2566 เวลา 09.00 น. ตนจะได้นำเจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมชุดประดาน้ำ ไปงมหาอาวุธมีดของกลาง ซึ่งคดีนี้ไม่ได้มีการใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายแต่อย่างใดใช้มีดแทงอย่างเดียว คดีนี้ได้ตั้งข้อหาว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่นและซ่อนเร้นทำลายศพ นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน