ศาลคุก20ปี ‘เซเลบลุงพล’

ประมาททำ‘น้องชมพู่’ดับ

สิ้นเสียงระฆังหมดยกแรกไปแล้วกับมหากาพย์คดีการเสียชีวิตของ ‘น้องชมพู่’ ด.ญ.วัย 3 ขวบ เมื่อปี 2563 เมื่อศาลจังหวัดมุกดาหารอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น ในวันที่ 20 ธ.ค.

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานต่างๆ ก็ชี้พิรุธหลายอย่าง เช่น ลุงพลเป็นเพียงคนเดียว ใน 14 คนใกล้ชิดกับเด็กที่ไม่สามารถยืนยันหลักฐานที่อยู่ได้แน่ชัด ในเวลาที่น้องชมพู่หายตัวไป

ศาลคุก20ปี ‘เซเลบลุงพล’ ประมาททำ‘น้องชมพู่’ดับ

รวมถึงคำให้การก็มีพิรุธหลายประการ อาทิ อ้างช่วงเกิดเหตุมีนัดไปรับพระที่วัดถ้ำภูผาแอก ขณะเดินทางไปวัด นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ภรรยาโทรศัพท์แจ้งว่า ผู้ตายหายตัวไป ทั้งที่ครอบครัวมีโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว และช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ที่ป้าแต๋น

และยังมีคำให้การพยานที่เห็นลุงพลอยู่ในสวนยางพาราซึ่งมีทางเดินไปถึงจุดพบศพในช่วงเวลาที่คนร้ายลงมือ

หลักฐานมัดตัวชิ้นสำคัญคือผลการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ ประกอบกับคำเบิกความของพยานผู้เชี่ยวชาญ พบผม 1 เส้น ตกอยู่ในรถลุงพลมีองศาของรอยตัดหน้าตัด และพื้นผิวด้านข้างตรงกันกับเส้นผมผู้ตาย 2 เส้น จากบริเวณจุดพบศพ จึงถูกตัดในคราวเดียวกัน ด้วยวัตถุของแข็งมีคมชนิดเดียวกัน








Advertisement

แต่ศาลพิเคราะห์ว่า ลุงพลไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับพ่อแม่หรือเด็กผู้ตายมาก่อน จึงไม่น่าเชื่อว่ามีเจตนาฆ่าหรือเจตนาทอดทิ้งผู้ตาย

พิพากษาให้ ‘ลุงพล’ ผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 10 ปี และฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาปราศจากเหตุอันควร จำคุก 10 ปี

ส่วนป้าแต๋นที่เป็นจำเลยร่วม พยานหลักฐานโจทก์มีข้อสงสัยจึงยกประโยชน์แห่งความสงสัย พิพากษายกฟ้อง

หลังฟังคำพิพากษา พ่อแม่ของน้องชมพู่ยืนยันเดินหน้าอุทธรณ์ข้อหาเจตนาฆ่า ส่วนลุงพลก็ใช้หลักทรัพย์เป็นที่ดินมูลค่า 6.5 แสนบาท ประกันตัวออกมา ประกาศเดินหน้าสู้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ถึงขั้นฎีกา

คอมมานโดบุกบ้าน‘บิ๊กโจ๊ก’

พิษลูกน้องสนิทโยงเว็บพนัน

วงการสีกากีสั่นสะเทือน เมื่อตำรวจคอมมานโดพร้อมอาวุธครบมือจู่โจมปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ซอยวิภาวดีรังสิต 60 หลังสโมสรตำรวจ เช้าวันที่ 25 ก.ย.

หนึ่งในบ้านเป้าหมายถูกระบุว่าเชื่อมโยงขบวนการผู้ต้องหาคดีเว็บพนันออนไลน์ และบัญชีม้า

แต่ผู้ที่อาศัยบ้านหลังดังกล่าวไม่ใช่นายหมูนายแมว เพราะเขาชื่อ ‘บิ๊กโจ๊ก’ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่สวมเสื้อยืดสีขาว นุ่งกางเกงบ๊อกเซอร์สีฟ้าขาว สวมถุงเท้ายาวสีขาว ออกมาเจรจากับพล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ก่อนให้เข้าค้นบ้านตามหมายศาลที่ถือมาแสดง

 คอมมานโดบุกบ้าน‘บิ๊กโจ๊ก’ พิษลูกน้องสนิทโยงเว็บพนัน

ช่วงเวลาเดียวกันยังมีตำรวจอีกหลายชุดกระจายกำลังปูพรมตรวจค้นอีก 6 จังหวัด รวบบุคคลตามหมายจับเป็นพลเรือน 13 คน และนายตำรวจ 8 นาย ที่ล้วนเป็นตำรวจคนสนิทของบิ๊กตำรวจ

โดยตัวละครสำคัญคือ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รอง ผบก.สส.ภาค 4

ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการขยายผลจากการกวาดล้างขบวนการเว็บพนันออนไลน์ เครือข่ายของ น.ส.สุชานันท์ หรือ ธันยนันท์ หรือ มินนี่

เมื่อตรวจสอบเส้นทางทางการเงินพบว่ามีการโอนเงินจากมินนี่เข้าบัญชีม้าที่ พ.ต.อ.ภาคภูมิ เป็นคนถือ 3,659,890 ล้านบาท จากนั้นกระจายเงินให้กับ 7 ตำรวจ

นอกจากนี้ ยังมีการโอนเงินเป็นค่า ใช้จ่ายในการรักษามารดาของ ‘บิ๊กโจ๊ก’ กว่า 2.8 ล้านบาท และค่าโทรศัพท์ 7 ครั้ง อีก 48,682.34 บาท

จนเป็นที่มาของการบุกจับกุมและตรวจค้นครั้งนี้!

ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ตั้งโต๊ะแถลงทันควัน ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมลั่นคำหากตรวจสอบแล้วลูกน้องทำผิดจริงไม่มีทางเลี้ยงไว้ให้เปลืองข้าวสุก

‘แอม ไซยาไนด์’ สาวสยอง

วางพิษฆ่าต่อเนื่องนับ10ศพ

‘แอม ไซยาไนด์’ ฉายานี้คงไม่ต้องพูดถึงความสยอดสยอง สั่นสะเทือนจิตใจผู้คนเป็นอย่างมาก เพราะกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกว่าคือฆาตกรต่อเนื่อง วางยาฆ่าคนใกล้ชิดหลายราย ด้วยตัวเลขอันน่าสะพรึงว่าอาจมากถึง 15 ศพ

‘แอม ไซยาไนด์’ สาวสยอง วางพิษฆ่าต่อเนื่องนับ10ศพ

นางสรารัตน์ หรือ แอม รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี กลายเป็นเจ้าของฉายานี้ หลังตกเป็นผู้ต้องหาวางยาฆาตกรรม น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย อายุ 32 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี ระหว่างไปตระเวนทำบุญเมื่อวันที่ 14 เม.ย.

แต่ขณะที่ก้อยเกิดเป็นลมวูบหมดสติ เสียชีวิตที่บริเวณศาลาประชาคมริมแม่น้ำแม่กลอง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยทรัพย์สินส่วนตัวสูญหายไปกว่า 4 หมื่นบาท

ภาพวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุจับภาพนางสรารัตน์เดิน ชิ่งหนีหายไปทันที ผิดวิสัยของคนเป็นเพื่อนที่มาด้วยกัน

ยิ่งผลชันสูตรศพของเหยื่อพบสารไซยาไนด์ในเลือดในปริมาณมากพอที่จะคร่าชีวิตมนุษย์ จึงเชื่อว่าเป็นการวางยาพิษโดย ‘แอม’ เพื่อนสนิท

ไม่เพียงแค่นั้น เมื่อตำรวจตรวจสอบย้อนหลังก็พบว่ามีกรณีใกล้เคียงกัน มีเพื่อนที่สนิทสนม เล่นแชร์วงเดียวกัน หรือกระทั่งสามีของแอมเสียชีวิตในลักษณะดังกล่าวนับสิบคน

ยิ่งตำรวจขุดคุ้ยมากเท่าไหร่ก็ยิ่งพบหลักฐานมัดตัวมากขึ้นเท่านั้น จนดิ้นไม่หลุด

เรื่องราวยังลามไปถึง พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ ‘รองอ๊อฟ’ รองผกก.(สอบสวน) สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี อดีตสามีของแอมที่ศาลจังหวัดนครปฐมอนุมัติหมายจับ 2 ข้อหา ประกอบด้วย ร่วมกันรับของโจร และร่วมกันปลอมแปลงเอกสารทางราชการ และใช้เอกสารราชการปลอม เชื่อมโยงกับหลายเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับคดีของ ‘แอม’ ก่อนหน้านี้

‘แอม ไซยาไนด์’ กลับมาเป็นข่าวล่าสุดช่วงเธอแท้งลูกที่อุ้มท้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำระหว่างรอคำพิพากษาของศาล

‘ดิว-อริสรา’ทิ้งบอมบ์พี่น้อง4บ.

สะเทือน ‘สารวัตรซัว-นายพล จ.’

ช่วงต้นปีโลกโซเชี่ยลฮือฮาเป็นอย่างมาก จากคลิปเปิดใจที่ดาราสาว ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ โพสต์ไว้ แฉอดีตแฟนหนุ่มที่ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจของเธอจนยับเยิน พร้อมโยนระเบิดลูกใหญ่เกี่ยวกับครอบครัวดังกล่าวที่มี 4 พี่น้องชื่อเล่น บ.ใบไม้ ทั้งบ้านเชื่อมโยงเว็บพนันออนไลน์เจ้าใหญ่ในนาม “มาเก๊า 888”

‘ดิว-อริสรา’ทิ้งบอมบ์พี่น้อง4บ. สะเทือน ‘สารวัตรซัว-นายพล จ.’

หลังผ่านไปเพียง 2 สัปดาห์ ในวันที่ 3 ก.พ. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. (ยุคนั้น) สั่งการหน่วยคอมมานโดบุกทลายเครือข่ายเว็บพนันมาเก๊า 888 จู่โจมค้น 8 จุดในกทม.และปริมณฑล และสามารถอายัดทรัพย์สินได้จำนวนมาก

นอกจากนั้น พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ยังนำบช.สอท.และตำรวจ PCT ร่วมกันขยายผลอีกกว่า 40 เป้าหมาย ตรวจยึดหลักฐานเชื่อมโยงเว็บพนันดังกล่าว อายัดทรัพย์สินจำนวนมาก รวมถึงซูเปอร์คาร์หรูลัมโบร์กินีของ ‘เบนซ์ เดม่อน’ หรือ นายชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร อายุ 37 ปี เป็นพี่ชายคนโตในตระกูล 4 บ.ที่ระบุว่ามีเพียงคันเดียวในประเทศไทย

ขณะที่ ‘เบนซ์ เดม่อน’ ซึ่งหลบหนีอยู่ที่ฮ่องกงถูกกดดันอย่างหนักจนต้องบินกลับไทยเข้ามอบตัวในวันที่ 14 ก.พ.

ไปป์บอมบ์ลูกแรกของดาราสาวว่าแรงแล้ว แต่ยังแพ้ทุ่นระเบิดเคลย์มอร์ที่ถูกวางไว้โดยจอมแฉในตำนาน ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ ที่เปิดโปงว่า มาเก๊า 888 เรียกได้แค่ ไซซ์เอสเท่านั้น โดยไซซ์แอล คือ ‘สารวัตรซัว’ แห่ง ‘เป็นต่อกรุ๊ป’ ที่เติบโตมีเงินหมุนเวียนเป็นหมื่นล้าน

ใช้คอนเน็กชั่นโรงเรียน ภ.ป.ร.สามพราน เชื่อมโยง ‘นายพล จ.’ ใช้ลูกน้องหัวกะทิที่จบจากที่เดียวกันสุมหัวทำพนันออนไลน์ เปิดบริษัทบังหน้าหลายสิบแห่ง

จอมแฉยังระบุอีกว่าสารวัตรซัวก่อนนี้อยู่ไซเบอร์เป็นมือเก็บเว็บพนันส่งให้นายพล จ. แม้ไม่ได้อยู่ไซเบอร์แล้ว แต่ยังไม่ล้างมือจากวงการ

ทันทีทันใดนั้นเอง สารวัตรซัว หรือ พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล สารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สังกัดกองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง ก็ถูกต้นสังกัดสั่งให้ออกจากราชการ ด้วยข้อหาขาดราชการเกินกว่า 15 วัน

ขณะที่ ‘บิ๊กเด่น’ สั่งจเรตำรวจแห่งชาติตั้งกรรมการสอบสวนสารวัตรซัว และนายพล จ. ปมมีชื่อไปพัวพันเรียกรับผลประโยชน์เว็บพนันออนไลน์

ส่วน ‘บิ๊กก้อง’ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ก็ใช้เวลารวมกว่า 3 เดือน ตั้งแต่ก.พ.-พ.ค. กวาดล้างแก๊งเครือข่ายสารวัตรซัว ตรวจค้นมากกว่า 80 เป้าหมาย จับผู้ต้องหา 57 คน ยึดทรัพย์รวมกว่า 7,000 ล้านบาท

และยังไม่หยุดตามล้างตามเช็ดขบวนการนี้อย่างต่อเนื่อง

ล้อมคอกศึกช่างกลคร่า‘ครูเจี๊ยบ’ ตร.ล้างบาง‘องค์กรมืด’ผู้บงการ

ปัญหาเรื่อง ‘นักเรียน-นักเลง’ ที่นิยมประลองกำลังต่างสถาบันการศึกษา ‘ระเบิดศึกช่างกล-เปิดสงครามอาชีวะ’ มีมาตั้งแต่อดีตนานปีต่อเนื่องหลายรุ่น ไม่มีทีท่าจะแผ่วบางลง แต่นับวันยิ่งอุกอาจรุนแรงขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน

ล้อมคอกศึกช่างกลคร่า‘ครูเจี๊ยบ’ ตร.ล้างบาง‘องค์กรมืด’ผู้บงการ

เช้าวันที่ 11 พ.ย. น.ส.ศิรดา สินประเสริฐ อายุ 45 ปี หรือ ครูเจี๊ยบ ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ที่มีกำหนดจะเข้าพิธีวิวาห์ในอีกไม่กี่เดือน ต้องจบชีวิตลงบนทางเท้าริมถนนสุนทรโกษาใกล้แยก ณ ระนอง คลองเตย กรุงเทพฯ

เหตุจากเธอถูกกระสุนปืนลูกหลงจากมือปืนที่บุกจ่อยิงกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่เดินอยู่ใกล้กันเจาะเข้าศีรษะสิ้นใจแทบจะในทันที

ส่วนเป้าปืนตัวจริงก็ไม่รอดเป็นหนุ่มนักศึกษาอุเทนถวายชื่อ นายธนสรณ์ ห้องสวัสดิ์ อายุ 19 ปี ถูกยิงเข้าคอและลำตัวหลายนัดนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลไม่กี่วันก็สิ้นใจตามไปอีกศพ

ตำรวจพุ่งเป้าไปที่สถาบันคู่อริตลอดกาลของเป้าปืนทันทีนำไปสู่การทลายรังใหญ่ย่านประชาชื่น จับกุมวัยรุ่นทั้งที่ยังเป็นนักศึกษาและพวกที่ถูกไล่ออกจากสถาบันไปแล้ว หลายรายมีหมายจับติดตัว

นอกจากนั้นยังพบข้อมูลที่น่าตกตะลึง เพราะพฤติกรรมของคนเหล่านี้เกินเลยคำว่าเยาวชน นักศึกษา หรือปัญญาชน

แต่เป็นองค์กรอาชญากรรมที่มีรุ่นพี่ ‘ผี’ ศิษย์เก่าที่เรียนไม่จบเพราะพฤติกรรมเลวทรามจนถูกขับจากสถาบัน นำเงินสีเทาของธุรกิจผิดกฎหมายตั้งเป็นกองทุนล้างสมองรุ่นน้อง ปลูกฝังค่านิยม ให้ล่าสังหารสถาบันคู่อริเก็บแต้ม แลกการได้ตีตรา ‘เฟือง’ บนร่างกาย ที่อุปโลกน์ให้เป็นความภาคภูมิใจแบบหาสาระไม่ได้สักกระพี้เดียว

จากความอหังการดังกล่าว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ลั่นคำประกาศสงครามล้างบางขุดรากถอนโคนองค์กรมืดแบบนี้ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับสังคม

ล่าสุด พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เปิดปฏิบัติการ “ปิดเมืองกรุงล่ามือปืน ep.2” ปูพรม 14 จุด เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. กวาดจับ 12 ผู้ต้องหาในจำนวนนั้นมีสาววัย 24 ที่ขับเก๋งพามือปืนและคนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีหลังก่อเหตุ รวมถึงคนชี้เป้าด้วย

และรุ่งเช้าวันที่ 19 ธ.ค.ก็นำกำลังไปล้อมเต็นท์พักแรมกลางอุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย จ.เชียงใหม่ ปลุกนายอนาวิน หรือ อ้ำ แก้วเก็บ อายุ 20 ปี มือปืนที่กำลังนอนฝันหวานขึ้นมาจับ พร้อมพวกที่มีหมายจับคดีซ่องโจรติดตัวอีก 1 คน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน