อหังการรัวฆ่าสารวัตรตงฉิน

ปีนักษัตรเถาะ 2566 นับเป็น ‘ปีชง’ ของวงการตำรวจอย่างแท้จริง

ไล่ตั้งแต่ บุกค้นบ้านนายพลระดับ รองผบ.ตร. ก๊วนตำรวจพัวพันแก๊งเว็บพนัน บิ๊กตำรวจเมืองชลฯ โยงคดีอุ้มรีดเจ้าพ่อกาสิโนออนไลน์ ฯลฯ

อีกหนึ่งคดีที่อุกอาจจนเกินจินตนาการผู้คน ใครจะไปคาดคิดว่ายังมีคนอหังการขนาดจ่อยิงตำรวจระดับสารวัตร ดับดิ้นกลางวงโต๊ะจีนที่รายล้อมด้วยนายตำรวจใหญ่-น้อยกว่า 20 นาย ภายในบ้านของผู้มีอิทธิพลใหญ่แห่งเมืองนครปฐม

เหตุดังกล่าวนอกจากทั้งจับเป็น-จับตาย ผู้สั่งการและมือปืน สั่งให้ออก-ตั้งกรรมการสอบสวนตำรวจทั้งหมดที่อยู่ร่วมเหตุการณ์แล้ว ยังลุกลามบานปลายไปถึงการขุดคุ้ยเรื่องส่วยรถบรรทุก และการฮั้วประมูลโครงการก่อสร้างของหน่วยราชการตามมาเป็นหางว่าว

คดีสะเทือนขวัญแวดวงสีกากีครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงกลางดึกคืนวันที่ 6 ก.ย. เมื่อสภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงด้วยปืน บาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิต นำส่งร.พ.ศูนย์นครปฐม โดยผู้เสียชีวิตคือ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงก์ หรือสารวัตรศิว สว.ทล.1 กก.2 บช.ก. มีบาดแผล ถูกอาวุธปืนยิงเข้าตามร่างกายรวม 7 นัด ส่วนผู้บาดเจ็บชื่อ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก. กก.2 บช.ก. ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่แขนซ้าย 1 นัด

เปิดปมขาใหญ่นครปฐมสั่งตาย

ส่วนที่เกิดเหตุคือ บริษัท ป.รวีกนก ก่อสร้าง เลขที่ 30/1 หมู่ 1 ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม ของ นายประวีณ หรือ กำนันนก จันทร์คล้าย อายุ 35 ปี กำนันตำบลตาก้อง ผู้กว้างขวางในพื้นที่ที่มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับอดีตนักการเมืองใหญ่ระดับประเทศ








Advertisement

วงโต๊ะจีนวันเกิดเหตุ

 

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุกำนันนกจัดเลี้ยงโต๊ะจีน โดยเชิญตำรวจทางหลวงมาร่วมสังสรรค์ เพราะมีแผนที่จะฝากหลานเขยซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของสารวัตรแบงก์ให้ย้ายตำแหน่งหน้าที่จากสายตรวจรถยนต์ไปเป็นสายตรวจจักรยานยนต์

แต่สารวัตรตงฉินยืนยันว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบแบบแผน อีกทั้งคนเก่ายังดำรงตำแหน่งอยู่ จะไปเบียดไม่ได้ ทำให้กำนันนกไม่พอใจ ถึงกับเอ่ยว่า “ทำแบบนี้ไม่ให้เกียรติกันเลย หลานคนเดียว ขอไม่ได้หรืออย่างไร” ก่อนทุบโต๊ะแล้วเดินออกไป

แผนผังโต๊ะจีน

 

จากนั้นไม่ถึง 5 นาที นายธนัญชัย หรือหน่อง หมั่นมาก อายุ 45 ปี ฉายา ‘หน่อง ท่าผา’ ชาวบ้านโป่ง จ.ราชบุรี คนสนิทกำนันนกเดินปรี่เข้าไปยืนประกบสารวัตรแบงก์แล้วชักปืนจ่อรัวยิงไม่ยั้งมือ กระสุนเข้าเป้า 7 นัดอาการสาหัส และมีกระสุนปืนลูกหลงไปถูกพ.ต.ท.วศิน บาดเจ็บ

หลังก่อเหตุนายธนัญชัยรีบหลบหนีออกจากบ้านที่เกิดเหตุ ท่ามกลางความตกตะลึงของบรรดานายตำรวจหลายนายที่เห็นเหตุการณ์ ก่อนช่วยกันนำผู้บาดเจ็บทั้งคู่ ส่งรักษาที่ร.พ.ศูนย์นครปฐม

แต่สารวัตรแบงก์ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนกำนันนกอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป ทั้งนี้มีรายงานว่าก่อนหลบหนีได้สั่งการให้ทำลายหลักฐานล้างคราบเลือด ปลอกกระสุน และเก็บวงจรปิดไปด้วย

กำนันนกผวามอบตัวจับตาย ไอ้หน่อง

หลังเกิดเหตุ ‘บิ๊กเด่น’ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. (ยุคนั้น) รับไม่ได้กับเหตุที่เกิดขึ้นกับลูกน้องนายตำรวจน้ำดี ส่ง ‘บิ๊กต่อ’ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.คนปัจจุบัน ในฐานะรองผบ.ตร.สมัยนั้น รุดไปดูแลอาการบาดเจ็บพ.ต.ต.ศิวกรถึงร.พ.ศูนย์นครปฐม

‘บิ๊กต่อ’ สั่งระดมตำรวจมือดีในสังกัดบช.ก.ร่วมกับตำรวจบช.ภาค 7 และบก.ภ.จว.นครปฐม ไล่ล่ากำนันนกและไอ้หน่องทันที

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ปลอบญาติสารวัตรแบงก์

 

เพียงวันเดียวกำนันนกทนถูกกดดันไม่ไหว ดอดเข้ามอบตัวในวันที่ 7 ก.ย. ถูกตั้งข้อหากำนันนกฐานใช้ให้ฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น

กำนันนกและหน่อง ท่าผา

 

ส่วนไอ้หน่องถูกจับตายที่ จ.กาญจนบุรี ในเช้าวันรุ่งขึ้น

ขณะที่ ‘บิ๊กโจ๊ก’ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. สั่งตรวจสอบตำรวจอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุมากกว่า 20 นาย เพราะได้รับรายงานจากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 ว่าพบร่องรอยการทำลายพยานหลักฐาน ทั้งการเช็ดคราบเลือด การถอดกล้องวงจรปิด รวมถึงบางส่วนช่วยเหลือกำนันนกและไอ้หน่องหลบหนี

จับตายหน่อง ท่าผา

 

นำมาสู่การออกหมายจับและจับกุมนายตำรวจยศ พ.ต.ต.-ร.ต.อ.-ร.ต.ท.-ร.ต.ต. รวม 6 นาย เป็นตำรวจสังกัดบก.ภ.จว.นครปฐม 3 นาย และบก.ทล. อีก 3 นาย ร่วมช่วยเหลือผู้ต้องหาหลบหนี รวมถึงมีชื่อเป็นเจ้าของปืนกระบอกที่สังหารพ.ต.ต.ศิวกร

ผู้กำกับเบิ้มเครียดฆ่าตัว

การสอบสวนเต็มไปด้วยความเข้มข้น พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการสติ๊กเกอร์ส่วยรถบรรทุก และตำรวจในพื้นที่บางนายมีส่วนพัวพัน ทำให้ ‘บิ๊กเด่น’ สั่งโอนย้ายคดีไปให้กองบังคับการปราบปรามดูแลคดีแทน

หลังเกิดเหตุครึกโครมครั้งนี้เพียง 5 วัน ก็เกิดความสูญเสียในวงการสีกากีอีก เมื่อพ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ผู้กำกับเบิ้ม ผกก.กก. 2 บก.ทล. ผู้บังคับบัญชาโดยตรงของสารวัตรแบงก์ ตัดสินใจกระทำอัตวินิบาตกรรมภายในบ้านพักย่านคูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ในวันที่ 11 ก.ย.

ปมเหตุคาดเกิดจากความกดดันจากการเสียชีวิตของลูกน้อง เนื่องจากมีข้อมูลเชื่อมโยงว่า พ.ต.อ.วชิราเป็นผู้โทรศัพท์เรียกสารวัตรแบงก์ไปร่วมงานเลี้ยงโต๊ะจีนบ้านกำนันนกจนถูกฆาตกรรม

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. แถลงฟัน 15 ตำรวจ ม.157

 

‘บิ๊กก้อง’ฟัน ม.157 ตร.โต๊ะจีน

วันที่ 26 ก.ย. ‘บิ๊กก้อง’ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ตั้งโต๊ะแถลงผลสอบสวนแบ่งกลุ่มตำรวจ 29 นาย ที่อยู่ในวันเกิดเหตุเป็น 4 กลุ่ม คือกลุ่มที่ 1 คือผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ มี 2 นาย, กลุ่มที่ 2 ให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหา 6 นาย, กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทันที ขณะเกิดเหตุมี 6 นาย และกลุ่มที่ 4 คือ มีพฤติการณ์ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นั้นมี 15 นาย

‘บิ๊กก้อง’ ระบุว่า หลังจากนำหลักฐานหารือร่วมกับพนักงานอัยการทุกแง่มุมมาตลอด สรุปแจ้งข้อกล่าวหากับตำรวจกลุ่มที่ 4 ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากไม่กระทำการใดๆ ตามหน้าที่ หลังจากเกิดเหตุ ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 157 ในจำนวนนี้มี พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท รวมอยู่ด้วย

ศาลเริ่มไต่สวน 22 ม.ค.67

ล่าสุดวันที่ 18 ธ.ค. ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.เลียบทางรถไฟ ตลิ่งชัน เบิกตัวกำนันนก พร้อม 6 นายตำรวจที่อยู่ในคุก รวมถึงทุกรายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี รวม 23 คน เพื่อนัดสืบพยานนัดแรก

โดยกำนันนกสวมชุดผู้ต้องขังใส่กุญแจมือและตรวนข้อเท้า มีสีหน้านิ่งเฉย ผิวคล้ำขึ้นซูบผอมลง อยู่ในทรงผมสั้นเกรียน และพูดคุยกับทนายความส่วนตัวเป็นระยะ แต่ไม่ได้แสดงความเครียดแต่อย่างใด

กำนันนกมอบตัว

 

สำหรับจำเลยที่ 1-5 เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดช่วยเหลือกำนันนกและเป็นกลุ่มที่ทำลายพยานหลักฐานพร้อมพาหนีซึ่งไม่ได้รับการประกันตัว นั่งเรียงกันอยู่แถวด้านหน้ากำนันนก ต่างสวมใส่กุญแจมือและโซ่ตรวนที่ข้อเท้าเช่นกัน

ส่วนจำเลยที่เหลือที่ได้รับการประกันตัวไปก่อนหน้านี้ นั่งเรียงกันตามลำดับเลขที่ของจำเลย

ศาลได้อ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยทุกคนฟังแล้ว จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐาน ในวันที่ 22 ม.ค. 2567 ในเวลา 09.00 น.

สำหรับคดีนี้หากหลังจากนี้ไม่มีการขอเลื่อนนัดอีก คาดว่าจะสามารถอ่านผลการพิจารณาคดีได้ในช่วงเดือนเม.ย. 2567

‘ดีเอสไอ’ฟันซ้ำฮั้วประมูล

นอกจากคดีสั่งฆ่าสารวัตรแบงก์แล้ว กำนันนกคนดังนครปฐมยังไม่จบวิบากกรรม เพราะเจ้าหน้าที่ขุดคุ้ยพบความผิดปกติเรื่องคดีฮั้วประมูลเนื่องจากพบว่าบริษัทของกำนันนก ประกอบด้วย บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ ก่อสร้าง จำกัด และบริษัท รวีกนก ก่อสร้าง จำกัด

ประมูลงานโครงการของรัฐ ตั้งแต่ปี 2554-2566 จำนวน 11 จังหวัด 1,544 โครงการ มูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท เฉพาะเขตนครปฐมจังหวัดเดียว ในปีงบประมาณ 2554-2566 มีมูลค่าถึง 6,802 ล้านบาท

กองฮั้วประมูลดีเอสไอออกหมายเรียก 58 บริษัท ที่เคยซื้อซองประกวดราคาในโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ แต่ไม่เข้าร่วมในขั้นตอนอี-บิดดิ้ง ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทของกำนันนกหรือไม่

พร้อมตรวจค้น 15 จุด รวมถึงบริษัทรับทำบัญชีได้หลักฐานเป็นเอกสารสำคัญจำนวนมาก จึงตั้งคณะทำงานร่วมกันขึ้นเพื่อตรวจสอบ และขยายผลว่าเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกับเอกชนหน่วยงานไหนที่มีการฮั้วประมูลหรือหลีกเลี่ยงภาษี

งานนี้ยังต้องจับตาว่าจะมีอีกกี่ตัวละครที่จะถูกร่างแหดำเนินคดี และถูกยึดทรัพย์สินอีกกี่ราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน