ตำรวจบุกรวบกลางสถานีรถไฟฟ้า อาสาทหารพราน ถือปืนลูกซองขึ้นบีทีเอสพระโขนง เปิดปากสารภาพ เตรียมไปงานวันเกิดเพื่อน อ้างเคยสมัครไปรบที่ยูเครน
วันที่ 7 ม.ค.2567 พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน สั่งการให้ พ.ต.ท.ธนากร งามเย็น รอง ผกก.ป.คลองตัน และ พ.ต.ท.พชรชัย ปาณะดิษ รอง ผกก.สส.สน.คลองตัน นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายสุรเดช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพระโขนง ถ.สุขุมวิท แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
พร้อมของกลางอาวุธปืนยาว ชนิดลูกซองเดี่ยว ยี่ห้อคอมมานโด สีดำ ขนาดลำกล้องยาว 8.6 นิ้ว เครื่องหมายทะเบียน กท 62703034 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนลูกซอง ยี่ห้อไทยอาร์ม ปลอกสีแดง เบอร์ 12 จำนวน 10 นัด เครื่องกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 ปลอกสีขาว จำนวน 9 นัด เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. (ลูกซ้อม) 50 นัด กล่องใส่อาวุธปืนยาว ชนิดเดี่ยวลูกซอง สีดำ 1 กล่อง กระเป๋าเป้แบบสะพายหลัง สีดำ 1 ใบ
รวบกลางสถานีรถไฟฟ้า อาสาทหารพราน ถือปืนลูกซองขึ้นบีทีเอสพระโขนง เปิดปากสารภาพ เตรียมไปงานวันเกิดเพื่อน
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 ม.ค. เวลาประมาณ 18.14 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุผ่านฟ้าว่า พบชายต้องสงสัยว่าอาจจะมีการพกพกพาอาวุธขึ้นมาบนสถานีรถไฟฟ้าพระโขนง การแต่งกายสวมเสื้อสีดำ กางเกงขายาวสีดำ รูปร่างสันทัด และกำลังเดินอยู่บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพระโขนง
ในมือถือกล่องใส่อาวุธปืนยาวสีดำ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าไปตรวจสอบพบ นายสุรเดช กำลังเดินอยู่บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพระโขนง จึงเรียกให้หยุดและขออนุญาตตรวจค้น โดยไม่ได้มีการต่อสู้ขัดขืนแต่อย่างใด
จากการตรวจค้นโดยมีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนายอื่นยืนสังเกตการณ์ในระยะ 1 เมตร และมีแสงสว่างจากไฟฟ้าส่องสว่างภายในสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส พบอาวุธปืนชนิดเดี่ยวลูกซอง ยี่ห้อคอมมานโด สีดำ ขนาดลำกล้องยาว 8.6 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก ภายในลำกล้องมีเครื่องกระสุนปืนลูกซองยี่ห้อไทยอาร์ม ปลอกสีแดง เบอร์ 12 บรรจุอยู่ภายในรังเพลิงจำนวน 1 นัด และบรรจุอยู่ในกล่องใส่อาวุธปืนยาว ชนิดเดี่ยวลูกซองสีดำ จำนวน 1 กล่อง
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การยอมรับว่า อาวุธปืนของกลางดังกล่าวเป็นของตนเองจริง และภายในกระเป๋าสะพายสีดำที่สะพายอยู่ยังมีเครื่องกระสุนปืนเหลืออีกจำนวนหนึ่ง จึงได้ลงมือตรวจค้นพบเครื่องกระสุนปืนซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าแบบสะพายหลังสีดำที่ผู้ต้องหาสะพายอยู่ขณะตรวจค้น
สอบถามผู้ต้องหาให้การยอมรับว่า ของกลางดังกล่าวที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นพบและตรวจยึดไว้ทั้งหมดนั้นเป็นของตนเองจริง โดยจะนั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานีนานาเพื่อไปงานวันเกิดเพื่อน ปกติเป็นอาสาสมัครทหารพราน เคยสมัครไปรบที่ยูเครน
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและครอบครอบเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
