จับ 3 คนไทย ผู้จัดหาให้แก๊งคอลฯ ลวงเพื่อนร่วมชาติ บังคับเปิดบัญชีม้า จนมุมกลับมาเยี่ยมบ้าน
วันที่ 19 ม.ค.67 พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. สั่งการให้ พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม., พ.ต.ต.ณรงเวทย์ จิวเดช สว.กก.2 บก.ปคม. นำกำลังจับกุม น.ส.พัณณ์ชิตา (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี น.ส.เจนจิรา (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี นายพงษ์กร คำตา อายุ 19 ปี ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญา ข้อหา “มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานต่างประเทศได้ โดยได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สิน,ใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ส่งคนออกไปนอกราชอาณาจักร”
ทั้งนี้ทราบว่า เมื่อเดือน พ.ย.66 มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พาผู้เสียหายคนไทยบางส่วนจาก จำนวน 26 ราย ที่ถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคารสแกนหน้าที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เพื่อขอให้ช่วยสืบสวนนำตัวกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดี
ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม.สืบสวนหาตัวกลุ่มคนร้าย เบื้องต้นพบมีการใช้บัญชีเฟซบุ๊กอวตาร ชักชวนเหยื่อคนไทยไปทำงานในร้านรับแลกเงินที่ปอยเปต กัมพูชา อ้างเงินเดือนสูงถึง 35,000-40,000 บาท แต่มีเงื่อนไขว่าต้องเปิดบัญชีธนาคารให้ได้ 10 บัญชี เพื่อจะใช้รับแลกเปลี่ยนเงิน ซึ่งยังจะได้ค่าตอบแทนพิเศษอีกบัญชีละ 5,000 บาทด้วย
หลังจากนั้นปรากฏว่าเมื่อเหยื่อหลงเชื่อเดินทางไปถึงที่จังหวัดปอยเปต บัญชีดังกล่าวก็จะถูกนำไปใช้เป็นบัญชีม้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้หลอกเหยื่อโอนเงิน เมื่อบัญชีถูกอายัด หรือที่เรียกว่าบัญชีตาย เจ้าของบัญชีก็จะถูกส่งตัวกลับประเทศทันที โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น และยังต้องถูกดำเนินคดี ข้อหาเปิดบัญชีม้าอีกด้วย
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบเบาะแสว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ซึ่งมีหน้าที่จัดหาผู้มาเปิดบัญชีม้า โดยใช้วิธีหลอกเหยื่อไปทำงานฯ เดินทางกลับเข้าประเทศ ผ่านช่องทางธรรมชาติ บางรายกลับไปเยี่ยมบ้านที่ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว บางคนก็กลับบ้านที่ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงตามจับกุมไว้ได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้การว่า พวกตนไปทำงานเป็น HR. หรือผู้จัดหาบัญชีม้า ให้กับกลุ่มชาวจีนที่ประเทศกัมพูชามีหน้าที่หลอกเหยื่อคนไทย อ้างพาไปทำงานร้านแลกเงิน หากหลอกสำเร็จ ก็จะได้ค่าคอมมิชชั่น หัวละ 1 หมื่นบาท นอกจากนี้ยังได้ค่าบัญชีม้าอีก 5,000 บาท ต่อ1 บัญชีด้วย จึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป