คอมมานโด นำกำลังบุกรวบสาว หลอกให้รัก อ้างชื่อ “โทนี่” เป็นนักธุรกิจร่ำรวย แชทคุยเหยื่อสาวเดือนเดียว สูญเงินกว่า 5 ล้านบาท หลังบอกจะส่งของชิ้นหนึ่งมาให้
วันที่ 22 มี.ค.2567 พ.ต.อ.เรืองรัตน์ หงษ์ทิพรัตน์ ผกก.สายตรวจฯ บก.ปพ. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศราวุธ อยู่สบาย สว.กก.สายตรวจฯ เข้าจับกุม น.ส.ตะวัน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” และศาลภูเก็ต ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯ” ได้ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ม.1 ต.ควนรู อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
คอมมานโด นำกำลังบุกรวบสาว หลอกให้รัก อ้างชื่อ “โทนี่” เป็นนักธุรกิจร่ำรวย แชทคุยเหยื่อสาวเดือนเดียว สูญเงินกว่า 5 ล้านบาท
สืบเนื่องจากเมื่อปี 2559 น.ส.เอ (นามสมมติ) เข้าแจ้งความ สภ.เมืองสุราษฎ์ธานี หลังไปรู้จักกับคนร้ายผ่านเฟซบุ๊ก ใช้โปรไฟล์เป็นรูปชาวต่างชาติ ชื่อว่า โทนี่ หลังจากแชทคุยกันแค่ 1 เดือน น.ส.เอ เกิดหลงรัก เชื่อว่า นายโทนี่ เป็นนักธุรกิจร่ำรวยอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และยังมาขอแต่งงานกันตนด้วย พร้อมจะส่งเพชรมูลค่า 20 ล้านบาทมาให้เป็นของขวัญแต่งงาน
ภายหลังคนร้ายก็อ้างว่าส่งของมาให้แล้ว แต่ติดปัญหาที่ด่านศุลกากร จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 5 ล้านบาท ผู้เสียหายหลงเชื่อยอมโอนเงินไปยังบัญชีที่นายโทนี่ส่งมาให้ หลังโอนเงินจนหมดแล้ว ผู้เสียหายกลับไม่สามารถติดต่อนายโทนี่ได้อีกเลย จึงเข้าแจ้งความเพื่อให้มีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวน จนทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ เป็นเจ้าของบัญชีม้าที่คนร้ายนำมาใช้รับโอนเงิน ได้หลบหนีมาอยู่บ้านในอ.รัตภูมิ จ.สงขลา จึงเข้าจับกุมดังกล่าว
จากการสอบสวน ผู้ต้องหา ให้การยอมรับว่า ก่อนหน้าตนได้รับการติดต่อจากเพื่อนสมัยมัธยมชื่อ นายคม (นามสมมติ) ว่า จะช่วยนำเงินฝากเข้าบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา เพื่อให้มียอดเงินผ่านบัญชีจำนวนมาก ซึ่งจะสามารถนำไปใช้ขอกู้เงินธนาคารได้
ผู้ต้องหา ให้การต่อว่า ตนหลงเชื่อจึงยอมไปเปิดบัญชีพร้อมส่งมอบสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็มให้ หลังจากนั้นตนก็ไม่สามารถติดต่อนายคมได้อีกเลย จนกระทั่งถูกจับในที่สุด จึงนำตัวส่ง สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ดำเนินคดีต่อไป
