จับแล้วผู้บงการ ร่วมแก๊งตำรวจ อุ้มรีดเงินชาวจีน 2.5 ล้าน แฉยังหลบหนีอีก 3 คน เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามไล่ล่าผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากกรณีชายฉกรรจ์ 3 คน บุกเข้าไปในโรงแรมแห่งหนึ่ง ภายในซอยประชาสงเคราะห์ 2 หรือซอยสุทธิพร แขวงและเขตดินแดง กทม. เพื่ออุ้มชาวจีน 5 ราย ออกจากห้องพัก โดยอ้างเป็นตำรวจก่อนจะรีดไถเงิน 2,500,000 บาท
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 7 พ.ค.67 ที่สน.ดินแดง รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เร่งรัดติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการ กระทั่งตำรวจชุดสืบสวนสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนเพิ่มอีก 2 ราย คือ
นายจูหลิน ซู หรือ เฮียเก้า ในข้อหา ร่วมกันกรรโชกทรัพย์, ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานฯ, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือยอมจำนนต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สิน และผู้ต้องหาอีกราย คือนายหยาง ฉิวเจี้ยน ในข้อหา รับของโจร
สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหากลุ่มนี้ นำโดย นายจูหลิน หรือซู เป็นผู้บงการ สั่งการใหญ่ในกระบวนการอุ้มรีดไถเพื่อนร่วมชาติ โดยจะเลือกเหยื่อเป็นชาวจีนด้วยกันที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย จากนั้นเมื่อได้เป้าหมายแล้วจะร่วมกันกับแก๊งตำรวจเข้าดำเนินการตามแผนที่วางไว้
เมื่อผู้เสียหายได้ประสานแก๊งคนลาว เพื่อขอแลกเงินผ่านเครื่องรูดบัตร ทาง น.ส.เนตร จึงเตรียมเครื่องรูดบัตรไปพบผู้เสียหาย พร้อมชี้เป้าวางแผนให้แก๊งตำรวจจัดทีมร่วมก่อเหตุ ซึ่งมีชาวจีน นายเจียนเปียวอู๋ และนายจู หลิน ซู ชาวจีน ซึ่งได้สัญชาติไทยแล้วร่วมด้วย โดยจะทำการกักขังเหยื่อไว้ภายในรถโตโยต้า คัมรี่ขาว (รถคันก่อเหตุ) พร้อมข่มขู่ว่ารูดบัตรเครดิต 1 ครั้ง มีความผิดต้องติดคุก 7 ปี หลังจากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาพาเหยื่อไปยังสนามยิงปืน เพื่อพบคนอ้างเป็นบอส และเป็นตำรวจ ก่อนที่จะนำคิวอาร์โค้ดมาให้เหยื่อโอนเงินสกุล USDT เข้ากระเป๋าเงินดิจิทัลของกลุ่มคนร้าย
ด้านนายหลิง ซู ให้การรับสารภาพว่า ตนได้อยู่ร่วมในขบวนการอุ้มรีดไถ่ครั้งนี้จริง โดยนายหยาง รับโอนเงินดิจิตัลสกุล USDT จากกลุ่มผู้ต้องหาเข้ากระเป๋าเงินดิจิทัลของตนเองแล้วทำธุรกรรมแปลงเป็นเงินบาทไทย ก่อนโอนเงินส่งต่อไปยังให้กลุ่มคนร้ายโดยแบ่งบัญชี จ.ส.ต.วีรยุทธ 700,000 บาท บัญชี นายนภสินธุ์ 700,000 บาท และบัญชีนายเจียน เปียว อู๋ 748,300 บาท
จากแนวทางการสืบสวนพบว่า คดีนี้มีผู้ร่วมก่อเหตุกันทั้งหมด 11 ราย พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับแล้ว 10 ราย โดยรายที่ 11 จากแนวทางการสืบสวนจากกล้องวงจรปิดและตำหนิรูปพรรณจากคำให้การของผู้เสียหายปรากฏว่าเป็นคนเดียวกัน คือนายณัฐพงษ์ ซึ่งยังหลบหนีอยู่เบื้องต้นตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วทั้งสิ้น 7 ราย ยังคงหลบหนีอยู่ 3 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงติดตามไล่ล่าผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
