บช.ก.-ขนส่ง เปิดปฏิบัติการ “ปราบรถเถื่อนวิ่งเกลื่อนเมือง” ค้น 4 จุด 2,000 กว่ารายการ เผยทะเบียนปลอมหมายเลขเดียวใช้ซ้ำกันมากถึง 26 คัน
วันที่ 31 ก.ค.2567 ที่บก.ป. พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. พร้อมด้วย นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมแถลงผลปฏิบัติการ “ปราบรถเถื่อนวิ่งเกลื่อนเมือง”
หลังนำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 4 จุด ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ราชบุรี ชัยภูมิ และศรีสะเกษ สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ จำนวน 4 ราย พร้อมตรวจยึดรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ รวมไปถึงแผ่นป้ายทะเบียนปลอมของกลางได้รวมกว่า 30 คัน
พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้เนื่องจากที่ผ่านมา ได้ตรวจพบมีการนำรถผิดกฎหมายมาสวมป้ายทะเบียนปลอม วิ่งบนท้องถนนจำนวนมาก อีกทั้งทะเบียนบางหมายเลข ยังถูกนำไปสวมรถมากถึง 26 คัน
นอกจากนี้ยังพบว่าปัจจุบันรถสวมทะเบียนปลอมเหล่านี้ มักถูกนำไปใช้กระทำผิดกฎหมายอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น อาทิ ใช้ในการขนยาเสพติด ลักลอบขนแรงงานต่างด้าว อาวุธเถื่อน จึงได้ประสานข้อมูลร่วมกับกรมการขนส่งทางบก จนนำมาสู่การบูรณาการกำลังร่วมกันเปิดปฏิบัติการดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า สำหรับครั้งนี้เป็นการขยายผลต่อเนื่อง จากกรณีจับกุมขบวนการส่งออกรถสวมทะเบียนประเทศเพื่อนบ้านเครือข่าย “เจ๊มะลิ” ในพื้นที่ อ.เมือง จ.เลย เมื่อวันที่ 26 ก.ย.66 ที่ผ่านมา ก่อนพบข้อมูลเลขทะเบียน ป้ายภาษี ยี่ห้อรถยนต์ ตัวถังรถยนต์ กว่า 2,000 รายการ ซึ่งเชื่อว่าเป็นข้อมูลเอกสารที่มีการปลอมขึ้นมา เพื่อจัดจำหน่ายไปยังลูกค้าที่มีการสั่งซื้อ
จากข้อมูลดังกล่าว มีการจำแนกออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มแรก เลขทะเบียนอยู่ในฐานข้อมูลกรมการขนส่ง แต่ระบุประเภทรถไม่ตรงตามจริง กลุ่มที่สอง เลขทะเบียนอยู่ในฐานระบบ ข้อมูลตรงกับตัวรถ เพียงแต่มีจำนวนหลายคัน หรือเรียกว่ารถแฝด และกลุ่มที่สาม ไม่พบข้อมูลในระบบของกรมการขนส่ง หรือเป็นรถติดป้ายทะเบียนว่าง หรือหมายเลขทะเบียนที่ยังไม่ได้เปิดใช้
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลรถกว่า 2,000 รายการเหล่านี้ พบว่าส่วนใหญ่ยังมีกรรมสิทธิ์เป็นของบริษัทไฟแนนซ์ ประมาณว่า ผู้ครอบครองหลังเช่าซื้อรถมา ก็ได้นำไปจำนำ บางส่วนตั้งใจจะขาย ขณะที่บางส่วนก็ถูกผู้รับจำนำเชิดหนี แล้วนำไปขาย
ซึ่งในส่วนของผู้ที่มาซื้อต่อนั้น บางรายก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นรถผิดกฎหมาย แต่เห็นแก่ราคาถูก หรืออาจตั้งใจจะนำไปใช้ในการกระทำความผิด แต่ก็ยังมีบางรายที่ไม่รู้ ว่าเป็นรถผิดกฎหมาย เพราะถูกย้อมแมวขาย เนื่องจากมีการปลอมป้ายทะเบียนและคู่มือการจดทะเบียนรถยนต์
จากนั้นจึงรวบรวมพยานหลักฐาน นำมาสู่การเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทั้ง 4 จุด และจนนำมาสู่การจับกุมผู้กระทำผิดทั้ง 4 ราย ได้ดังกล่าว ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาที่จับมาในครั้งนี้ เป็นเพียงแค่เครือข่ายเดียว หรือ ส่วนหนึ่งในฐานข้อมูลที่ตรวจพบ โดยหลังจากนี้จะเร่งขยายผลในส่วนที่เหลือเพิ่มเติม
ขณะที่ พล.ต.ต.คงกฤช กล่าวว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาตำรวจทางหลวง สามารถตรวจยึดรถสวมทะเบียนได้จำนวน 67 คัน โดยส่วนใหญ่จะถูกนำมาใช้ในการลักลอบขนยาเสพติด ลักลอบขนแรงงานต่างด้าว สินค้าหนีภาษีหรือของเถื่อน รวมไปถึงใช้ในการทำผิดกฎหมายอื่นๆมากมาย
ด้าน นายเสกสม กล่าวว่า ในส่วนของกรมการขนส่งทางบก ที่ผ่านมามีการประสานข้อมูลร่วมกับทางตำรวจอย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบทะเบียนรถต่างๆ ป้องกันการกระทำผิด ทำให้ทราบได้ว่า รถคันใดบ้างเป็นรถถูกต้อง หรือผิดกฎหมาย
ส่วนกรณีที่พบข้อมูลว่า มีรถใช้แผ่นป้ายทะเบียนหมายเลขเดียวกันถึง 26 คันนั้น จากการตรวจสอบพบเป็นแผ่นป้ายปลอม อีกทั้งหมายเลขทะเบียนดังกล่าวนั้น ก็ยังไม่ได้มีการเปิดใช้