ตร.นครบาล รวบกะเทยในตำนาน ตุ๋นชาวญี่ปุ่น สูญเงินนับล้าน เปิดประวัติสุดอึ้ง หลอกลวงเหยื่อยุ่นไป 73 คน ลงมือ 10 ปีได้ไปเกือบ 26 ล้าน
จากกรณีชายชาวญี่ปุ่น อายุ 36 ปี แจ้งความที่ สน.ทองหล่อ ว่าถูก นายอุทัย (สงวนนามสกุล) หรือ “เอมี่” หลอกลงทุน โดยผู้เสียหายรู้จักกับ นายเอมี่ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา นายเอมี่ หลอกว่ามาจากฮ่องกง มาขอเงินผู้เสียหายเพื่อเข้าพักโรงแรม จากนั้นได้ทำความรู้จักกัน นายเอมี่ นัดเจอผู้เสียหายหลายครั้ง หลอกผู้เสียหายไปรูดบัตรเครดิตซื้อทอง แล้วนำไปเปลี่ยนเป็นเงินสดจนสูญเงินกว่า 15 ล้านบาทนั้น
ล่าสุดวันที่ 3 ส.ค.67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. มอบหมาย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บชน., พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5, พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยชมานนท์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. พร้อมชุดสืบสวน จับกุม นายอุทัย หรือ เอมี่ ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง
สำหรับพฤติการณ์ของ นายอุทัย เป็นบุคคลที่ชอบหลอกลวง โดยจะเลือกเหยื่อส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่นหรือนักท่องเที่ยว ชักชวนผู้คุยว่าตนเดินทางมาจากประเทศฮ่องกง ได้รับความเดือดร้อนต้องการขอความช่วยเหลือ ทำกระเป๋าเงินหาย พร้อมกับเอกสารหนังสือเดินทาง ขณะนั่งรถมาจากพัทยาจนกระทั่งมาถึง กทม. จึงทำทีขอยืมเงินจากผู้เสียหาย เพื่อให้จ่ายเงินในการออกค่าทำหนังสือเดินทาง แล้วจะนำเงินมาคืนให้ภายหลัง ก่อนที่จะแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางการติดต่อของผู้เสียหายไว้
ต่อมา นายอุทัย ได้ติดต่อผู้เสียหายอยู่บ่อยครั้ง พร้อมทั้งขอยืมเงินมาโดยตลอด มักจะอ้างเหตุผลต่างๆ นานา นอกจากนี้ยังอีกหลอกผู้เสียหายว่า ทำงานโปรเจกต์ให้กับบริษัทยาชื่อดัง โปรเจกต์มีปัญหาต้องใช้เงิน ต้องการให้ผู้เสียหายช่วยเรื่องเงิน โดยจะโอนคืนภายหลัง สุดท้ายอ้างว่าบัญชีถูกล็อก โปรเจกต์ล่ม ผู้เสียหายทวงถามหลายครั้งแต่ไม่ได้คืน จนผู้เสียหายตรวจสอบสื่อโซเชียลมีเดียพบว่า นายเอมี่ เป็นมิจฉาชีพ หลอกคนอื่นมากกว่า 10 ครั้ง จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ
จากการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์ นายเอมี่ ตั้งแต่ปี 2011-2024 พบว่ามีชาวญี่ปุ่นถูกหลอก ทั้งหมด 73 คน มูลค่าความเสียหาย เกือบ 26 ล้านบาท รายละเอียดดังนี้
ปี 2011 ผู้เสียหาย 25 ราย มูลค่าความเสียหาย 942,000 บาท, ปี 2012 ผู้เสียหาย 9 ราย มูลค่าความเสียหาย 2,166,000 บาท, ปี 2014 ผู้เสียหาย 16 ราย มูลค่าความเสียหาย 1,588,000 บาท, ปี 2015 ผู้เสียหาย 2 ราย มูลค่าความเสียหาย 330,000 บาท, ปี 2018 ผู้เสียหาย 8 ราย มูลค่าความเสียหาย 307,000 บาท
ปี 2020 ผู้เสียหาย 6 ราย มูลค่าความเสียหาย 293,000 บาท, ปี 2022 ผู้เสียหาย 3 ราย มูลค่าความเสียหาย 90,000 บาท, ปี 2023 ผู้เสียหาย 1 ราย มูลค่าความเสียหาย 16,000,000 บาท, ปี 2024 ผู้เสียหาย 3 ราย มูลค่าความเสียหาย 4,072,000
