สืบนครบาล รวบ “โมริ งิ้วงาม” บัญชีม้าตัวสุดท้าย ของขบวนการ มิจฉาชีพ แอบอ้างแพลตฟอร์มดังหลอกทำภารกิจ- ถ่ายคลิปเปลือยกาย แลกกับการถอนเงิน 2.8 ล้านบาท

วันที่ 6 ก.ย. 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี ,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.

จับกุมตัว น.ส.พรวีนัส หรือโมริ งิ้วงาม อายุ 20 ปี ชาว จ.อุตรดิตถ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.458/2567 ลงวันที่ 23 พ.ค. พ.ศ.2567

ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

โดยสามารถจับกุมตัวได้บริเวณปากซอยห้องเช่าไม่ทราบชื่อ ริมถนนพิทักษ์ ต.ในเมือง อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.ธีรเดช ได้รับการร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากหญิงผู้เสียหาย ตลอดจนทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการซึ่งถูกออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม 2567 หญิงผู้เสียหายถูกขบวนการเหล่านี้แอบอ้างแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ของบริษัทหนึ่ง หลอกให้โอนเงินทำภารกิจหวังจะได้กำไรสูง แต่เมื่อโอนเงินไป กลับถอนไม่ได้

จากนั้นมิจฉาชีพออกอุบายให้ถ่ายคลิปเปลือยกาย แลกกับการถอนเงินที่ถูกหลอกโอนไปกว่า 2,800,000 ล้านบาท เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย จึงเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.2 จนเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2567 ศาลจังหวัดนนทบุรี ได้พิจารณาอนุมัติหมายจับผู้ร่วมขบวนการก่อเหตุ จำนวน 5 ราย

ซึ่งขณะนั้น สืบนครบาล โดยกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. หลังจากได้รับการประสานและสั่งการจากผู้บังคับการสืบนครบาล ได้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมตัวแล้ว จำนวน 4 ราย ยังคงเหลือผู้ต้องหาบัญชีม้าซึ่งยังหลบหนีอีก 1 ราย

จากการสอบสวน น.ส.พรวีนัส ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ระบุว่า ตนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานดูแลลูกค้าร้านอาหารกลางคืน และงาน Part time ต่าง ๆ กระทั่งเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม 2567 มีแฟนของรุ่นพี่ที่รู้จักกันเป็นผู้หญิง ชื่อเปิ้ล เดินทางมาหาตนที่ห้องพัก หลังตลาดเทศบาล5 โดยมาสอบถามแนะนำให้ตนไปทำงานชงเหล้า และงาน Part-time ต่าง ๆ ซึ่งตนสนใจเนื่องจากขณะนั้นไม่มีงานทำ

หลังจากที่พูดคุยกันจนเริ่มสนิท พี่เปิ้ลได้เสนอให้ตนไปเปิดบัญชีธนาคารให้ โดยบอกว่าจะนำบัญชีธนาคารไปใช้รองรับเงินที่ได้จากการติดต่อกับลูกค้า โดยไม่ได้บอกว่าเป็นธุรกิจอะไร ตนจึงยินยอมไปเปิดบัญชีธนาคารให้ จำนวน 7 บัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี น.ส.พรวีนัส โดยในการเดินทางไปเปิดบัญชี พี่เปิ้ล เป็นผู้พาตนเดินทางไปเปิดบัญชีธนาคารด้วยตัวเองทุกธนาคาร

เมื่อตนเปิดบัญชีธนาคารเสร็จเรียบร้อยทุกบัญชีธนาคาร พี่เปิ้ล ได้นำสมุดบัญชีธนาคารทุกธนาคารที่เปิดให้ไป พร้อมทั้งให้ตนนำเบอร์โทรศัพท์ที่พี่เปิ้ล เปิดไว้แล้ว ซึ่งได้ส่งให้ตนทราบผ่านข้อความในเฟซบุ๊ก นำไปผูกกับบัญชีธนาคารทุกธนาคารเพื่อเปิดใช้งานธุรกรรมบัญชีออนไลน์ ตลอดจนให้ตนสแกนใบหน้าเพื่อเปิดใช้งาน

เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อย พี่เปิ้ล ให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทุกขั้นตอน จำนวน 10,000 บาท จากนั้นได้แนะนำตนให้ได้รู้จักกับเจ้านายของพี่เปิ้ล ชื่อ นายสอง พร้อมแนะนำให้ตนไปหาคนมาเปิดบัญชีธนาคารให้เพิ่ม แต่ตนไม่ได้หา และได้ชักชวนตนและแฟนเดินทางไปทำงานที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา

โดยบอกว่าจะพาไปทำงานออฟฟิศ คอยตอบสนทนาลูกค้าผ่านเพจเฟซบุ๊ก หากตนสนใจไปทำงานจะออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ ซึ่งตนก็ไม่ได้ตอบตกลง หลังจากนั้นตนก็ไม่ได้พบกับพี่เปิ้ล และนายสองอีก จนมาถูกจับกุมในครั้งนี้

จากการตรวจสอบประวัติพบว่าปัจจุบันผู้ต้องหายังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดลำปาง ที่ จ.192/2567 ลงวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2567 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯ เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากของตนฯ ” ท้องที่ สภ.เมืองลำปาง อีก 1 หมายจับ

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้ระวังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกทำภารกิจต่างๆ โดยจะให้โอนเงินค่าดำเนินการ หรือลงทะเบียน สุดท้ายจะบอกว่าเราทำผิดกฎ ไม่สามารถถอนได้ ต้องโอนเงินเพิ่มเพื่อปลดล็อก แต่สุดท้ายก็จะอ้างว่าเราทำผิดกฎอีก จนเงินที่โอนไปมากขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับผู้ที่คิดจะเปิดบัญชีธนาคาร หรือขายบัญชีธนาคารให้ผู้อื่น โดยได้ค่าจ้างตอบแทน ขอให้ท่านอย่าได้เห็นแก่เงินเพียงไม่กี่บาท แต่ต้องแลกกับการติดคุก เจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมประสาน พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบให้ทราบ เพื่อดำเนินการอายัดตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว น.ส.พรวีนัส นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน