เหยื่อรุมแจ้งจับ ดร.กำมะลอ ขายทัวร์ทิพย์ และตุ๋นค่าหัวบินทำงานอังกฤษ เผยมีหมายแดงติดตัว แต่ยังลอยนวล ลั่นใครจับได้ให้ 1 ล้านบาท

วันที่ 9 ก.ย. 2567 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ อี้ แทนคุณ พากลุ่มผู้เสียหายประมาณ 20 คนเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พงศ์พิต อุปรโคตร รอง.ผกก.(สอบสวน) กก.5.ปคม. เพื่อแจ้งความหลังถูกหลอกให้ซื้อทัวร์เที่ยวต่างประเทศ และหลอกเก็บเงินค่าดำเนินการพาไปทำงานที่ประเทศอังกฤษ เสียหายกว่า 40 ล้านบาท

นายแทนคุณ กล่าวว่า ผู้เสียหายหลัก ๆ มีด้วยกัน 2 กลุ่ม กลุ่มแรก ถูกหลอกให้จ่ายเงินค่าดำเนินการพาไปทำงานที่ประเทศอังกฤษ เฉลี่ยต่อคน คนละ 130,000 บาท แต่สุดท้ายกลับไม่สามารถพาไปทำงานได้จริงตามที่กล่าวอ้าง

ส่วนกลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มที่ถูกหลอกขายทัวร์ต่างประเทศ เก็บเงินค่าทัวร์คนละ 130,000 บาท แต่ไม่มีการพาไปจริงเช่นเดียวกัน ทั้งสองคดีมีผู้ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกรวมกว่า 150 คน บางรายต้องรับภาระหนี้สิน ที่ต้องไปกู้เงินมาจ่ายเพื่อหวังจะได้ไปทำงานที่ต่างประเทศ

นายแทนคุณ กล่าวต่อว่า ผู้เสียหายทั้งสองกลุ่มมาจากผู้ก่อเหตุ กลุ่มเดียวกัน เพราะโอนเงินไปเข้าบัญชีเดียวกัน คือ นายเต่า และ ดร.จีน่า ซึ่งเป็น ดร.กำมะลอ ในอดีตเคยก่อคดีหลอกลงทุนธุรกิจฟาร์ม ปัจจุบันทั้งคู่กำลังจัดทำโปรเจกต์ใหม่ขึ้นมา เป็นโครงการเกษตรจริงใจ ซึ่งอาจมีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อรายใหม่เพิ่มอีกด้วย

ส่วน นายเอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เจ้าของโรงงานแห่งหนึ่งที่ จ.สมุทรสาคร กล่าวว่า เมื่อปี2566 ตนมีโครงการจะพาพนักงานและครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศ จึงตัดสินใจซื้อทัวร์กับบริษัทดังกล่าว เป็นเงิน 2.2 ล้านบาท แต่เมื่อถึงกำหนดกลับไม่สามารถไปเที่ยวได้จริง อ้างติดปัญหาต่าง ๆ ตนเคยเข้าแจ้งความที่กองปราบ ฯ แต่คดีไม่คืบหน้าเท่าที่ควร

นายเอ กล่าวอีกว่า ตนทราบว่า ปัจจุบันเจ้าตัวกบดานอยู่ที่ประเทศอังกฤษ มีหมายจับอินเตอร์โพลติดตัวอยู่ แต่ไม่มีหน่วยงานไหนประสานนำตัวกลับมาดำเนินคดี ซ้ำยังมีตำรวจสายสืบ และ อดีตตำรวจที่เกษียณอายุราชการไปแล้วโทรมาข่มขู่ทำร้ายตน หากนำเรื่องไปบอกสื่อ หรือแจ้งความ ทำให้ผู้เสียหายรายอื่น ๆ ไม่กล้าจะออกมาเคลื่อนไหว ซึ่งตนมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอและบทสนทนายืนยันทั้งหมดด้วย

“หากใครสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุและนำเงินมาคืนได้ ผมยินดีจะจ่ายเงินรางวัลนำจับเป็นค่าตอบแทนให้ 1 ล้านบาท เพราะไม่อยากให้ไปหลอกเงินเหยื่อรายใหม่เพิ่มอีก เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ถือเป็นภัยต่อสังคม” นายเอ กล่าว

เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน