สืบนครบาล รวบบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเป็นตำรวจ เหยื่อเสียหายกว่า 3 ล้าน เจ้าตัวสารภาพโดนจับมา 2 ครั้ง ยันไม่เคยขายบัญชีให้ใคร มีเพียงเพื่อนขอไปใช้
วันที่ 10 ต.ค. 2567 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น.,พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง,พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์ รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.นิทัสน์ มีทอง สว.กก.สส.4ฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.สส.4 บก.สส.บช.น.
ร่วมกันจับกุมตัว นายสันติภาพ อายุ 27 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.380/2566 ลงวันที่ 18 พ.ค. 2566 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริต หรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ” จับกุมบริเวณหน้าบ้าน ภายในหมู่บ้านจัดสรร แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากผู้เสียหายถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร โดยอ้างว่า “มีพัสดุถูกตีกลับมาที่ DHL สาขาเชียงราย จากนั้นมีการต่อสายไปยังเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ รวมทั้งมีการวิดีโอคอลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอ้างว่าเป็นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย” จนทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินตามขั้นตอนต่าง ๆ จนเกิดความเสียหาย
โดยมูลค่าความเสียหายรวม 3,328,117.53 บาท จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี จากการสืบสวนสอบสวน จนนำไปสู่การออกหมายจับ นายสันติภาพ ผู้ต้องหา โดยบัญชีของ นายสันติภาพ เป็นบัญชีที่ใช้ในการรับโอนเงินที่คนร้ายหลอกจากผู้เสียหาย
จากการซักถาม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าตนไม่เคยขายบัญชีให้แก่ผู้ใดมาก่อน แต่เคยมีการเปิดบัญชีและมีเพื่อนขอไปใช้ โดยไม่ทราบว่านำไปใช้เรื่องใด จนกระทั่งถูกจับกุมในคดีก่อนหน้านี้มาแล้ว 2 ครั้ง
จากการตรวจสอบพบว่า นายสันติภาพ ถูกดำเนินคดีมาแล้วจำนวน 2 ครั้งจริงในความผิดเดียวกันนี้ ที่ สภ.จักราช และ สภ.ประทาย จว.นครราชสีมา จากนั้นได้นำตัวส่ง สภ.เมืองปัตตานี ภ.จว.ปัตตานีเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้านพล.ต.ต.ธีรเดช ขอแจ้งเตือนภัยว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะใช้วิธีการโทรมาแจ้งว่ามีพัสดุจัดส่ง โดยให้กดหมายเลขเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม, โทรฯมาแจ้งว่าพัสดุจากต่างประเทศติดศุลกากร และไม่สามารถจัดส่งได้ ต้องแอดไลน์โทรฯเข้ามากล่าวหาว่าส่งของผิดกฎหมาย และหลอกให้โอนเงินเพื่อเคลียร์คดี หรือโอนสายให้เคลียร์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางโทรศัพท์ วิดีโอคอล
จากนั้นก็ยังอ้างว่า คุณเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน มีประวัติส่งพาสปอร์ต บัตร ATM ไปประเทศจีน ฯลฯ, ส่งข้อความ SMS อ้างว่าเป็น DHL ชวนให้คลิกลิงก์ดาวน์โหลดและติดตั้งแอพบนมือถือ จากนั้นก็จะให้โอนเงินตรวจสอบ ขอให้ประชาชนมีสติ ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีนโยบายที่จะโทรหาผู้ถูกกล่าวหาและไม่มีการให้โอนเงินตรวจสอบเด็ดขาด