ปวีณา พาผู้เสียหาย ถูกบริษัทช่วยปิดหนี้ หลอกซื้อคอนโด เสียหายเป็นหนี้ 3 พันล้าน ยื่นหนังสือดีเอสไอ ช่วยตรวจสอบ แฉวิธีการสุดแสบ

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 11 ธ.ค.2567 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาผู้เสียหาย 70 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจากทั้งหมด 200 กว่าคน เดินทางไปยื่นหนังสือกับ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ให้ช่วยตรวจสอบ บริษัทแห่งหนึ่ง ช่วยปิดหนี้ แล้วหลอกซื้อคอนโดฯ คนละ 3-6 ห้อง จนผู้เสียหายต้องเป็นหนี้คนละกว่า 10 ล้านบาท และเกิดความเสียหายเป็นหนี้รวมกว่า 3,000 ล้านบาท

นางปวีณา กล่าวว่า หลังรับเรื่องร้องทุกข์จากผู้เสียหายที่เดินทางมามูลนิธิปวีณาเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ตรวจสอบเอกสารกฎหมายมีความละเอียดมากมีสัญญาเกือบทุกเรื่อง จึงมองถึงการแก้ปัญหาหนี้สินเป็นหลักว่าจะแก้อย่างไร สิ่งแรกที่เป็นห่วงคือ หนี้สินที่ต้องแบกหนี้คนละ 10 ถึง 20 ล้านบาท บางคนมากถึง 40 ล้านบาท

ทั้งที่ทุกคนอายุยังน้อยอยู่ในวัยทำงานต้องเลี้ยงดูครอบครัว เลี้ยงดูลูกและพ่อแม่ ทุกคนพะวงว่าถ้าหาเงินมาใช้หนี้ไม่ได้เขาจะถูกเป็นบุคคลล้มละลาย หมายความว่าชีวิตเขาจะอยู่อย่างไร เอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงดูครอบครัว ถูกออกจากงาน ยึดทรัพย์สิน เสียเครดิต จึงพาผู้เสียหายที่ถูกบริษัทในพื้นที่คลองสอง ช่วยปิดหนี้หลอกซื้อคอนโดเสียหายเป็นหนี้ ยื่นหนังสือต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)

เพื่อขอให้เป็นหน่วยงานหลักประสานธนาคารทุกแห่งประเทศไทย ทำการประนอมหนี้ ชะลอการชำระเงินกู้ระหว่างแก้ไขปัญหา เนื่องจากผู้เสียหายไม่มีกำลังส่งค่างวดกู้ซื้อคอนโดพร้อมกันหลายห้องได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ธนาคารมีหนี้เสียและส่งผลกับสภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ และขอให้ DSI เป็นหน่วยงานหลักในการประสานธนาคารแห่งประเทศไทย ส่งเรื่องไปยังธนาคารทุกแห่ง เพื่อทำการประนอมหนี้

เช่น ไม่คิดดอกเบี้ย ชะลอการชำระเงินกู้ เพื่อให้ผู้เสียหายมีโอกาสตั้งหลักในการขายหรือให้เช่าคอนโดฯ เนื่องจากผู้เสียหายไม่มีกำลังส่งค่างวดกู้ซื้อคอนโดฯ พร้อมกันหลายห้องได้ พร้อมขอให้ตรวจสอบบริษัทที่ทำธุรกิจในรูปแบบนี้ที่ตอนนี้มีการโฆษณาในโซเชียลอยู่เป็นจำนวนมาก หากมีคนหลงเชื่อจะทำให้เกิดความเสียหายมหาศาลที่ประเมินค่าไม่ได้

น.ส.มีน (นามสมมติ) ผู้เสียหายรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนเป็นพนักงานบริษัทเงินเดือน 4 หมื่นกว่าบาท ก่อนหน้านี้ตนเป็นหนี้บัตรเครติดอยู่ 9 แสนบาท จู่ๆ มีบริษัทแห่งหนึ่งโทรมาเสนอปิดหนี้บัตรเครดิตให้ แล้วเขาก็จ่ายเงินปิดให้จริง โดยมีเงื่อนไขห้ามไปเป็นหนี้อะไรอีก เพราะต้องการให้ปลอดหนี้ที่แสดงในเครดิตบูโร ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเขารู้เรื่องหนี้สินตนได้อย่างไร

จากนั้นก็ได้มีการไปลงบันทึกประจำวันที่สภ.คูคต ว่าบริษัทปิดหนี้ให้ และทำสัญญาจะต้องร่วมกับบริษัทในโครงการกู้ซื้อคอนโดฯ ผ่านไป 3-6 เดือน เมื่อบูโรใสสะอาดเขาก็ให้กู้ซื้อคอนโดฯ ทีแรกคิดว่าคงกู้ซื้อห้องเดียว

แต่ปรากฏว่าเขาเอาเอกสารไปยื่นทุกธนาคารพร้อมกัน และตนก็กู้คอนโดฯ 4 แห่ง 4 ห้องผ่าน เป็นหนี้ 16 ล้าน โดยบริษัทบอกให้ตนผ่อน 1 ห้อง และบริษัทจะผ่อนอีก 3 ห้อง มีสัญญา 2 ปีจะซื้อคืน แต่ผ่านไประยะหนึ่ง บริษัทก็ไม่ผ่อนทำให้ตนถูกธนาคารทวงถามและบอกจะฟ้อง

น.ส.มีน (นามสมมติ) เปิดเผยอีกว่า ผู้เสียหายรายอื่นๆ ก็เช่นเดียวกับตน บางคนมีหนี้บัตรเครดิต 6 แสน บริษัทปิดหนี้ให้ แต่ต้องเป็นหนี้คอนโด 5 ห้อง 15 ล้าน บางคนมีคอนโดฯ ถึง 6 ห้องเป็นหนี้ 25 ล้าน 40 ล้านก็มี ผู้เสียหายได้มีการตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นและมีสมาชิกกว่า 200 คน ทุกคนเครียดมากเพราะบริษัทปล่อยทิ้งมีหนังสือบอกให้ไปประนอมหนี้กับธนาคาร บริษัทปิดดำเนินการแล้ว

ซึ่งตนเครียดจัดกำลังจะผูกคอตาย พอดีโทรไปมูลนิธิปวีณาฯ ได้พูดคุยกับนางปวีณา จึงได้ขอความช่วยเหลือ และทุกคนก็รวมตัวกันร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณา

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า เบื้องต้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเรื่องไว้ตรวจสอบก่อน แนะนำผู้เสียหายให้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เนื่องจากเป็นเรื่องเศรษฐกิจความเสียหายเกิดขึ้นถึง 3,000 ล้าน แต่ขอตรวจสอบแล้วเข้าข่ายก็จะรับเป็นคดีพิเศษ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน