เปิดปฏิบัติการทลายรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน ลวงเล่นเกมส์ล้วงข้อมูลส่วนตัว หลอกเอาข้อมูลกว่า 8.8 หมื่นรายขายแก๊งคอลฯ ตร.แฝงตัวขึ้นรถเมล์ บุกรวบ “บอส-พนักงาน 12 ราย”

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 18 ก.พ.2568 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น./รองหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล ศปอส.ตร. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT, สืบนครบาล และ สน.สุทธิสาร กว่า 50 นาย นำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้น บริษัท ลัคคิง Luckking จำกัด ตั้งอยู่ ชั้น 8 ภายในอาคารแห่งหนึ่ง ถ. รัชดาภิเษกซอย11 แขวงรัชดาถิเษก เขตดินแดง พร้อมจับกุมนาย MR.ZHANG HONGXIANG อายุสัญชาติจีน บอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งบนถนนรัชดา ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

พร้อมตรวจยึดของกลาง ป้ายบริษัท ลัคคิง จำกัด, บัตรห้อยคอพนักงาน 13 ใบ, เสื้อโปโล โลโก้ลายปัก LUCKKING จำนวน 8 ตัว, วงล้อเสี่ยงทาย จำนวน 1 อัน, แผ่นสติกเกอร์คิวอาร์โค๊ดไลน์ LUCKKING 1 แผ่น, แผ่นคูปองเติมเงิน LUCKKING จำนวน 10 ใบ, โบชัวร์ จำนวน 1 ชุด, อุปกรณ์สำหรับไลฟ์สด 1 ชุด, เอเทอร์นอล ฮาร์ดดิส จำนวน 3 อัน, ไข่ทองสำหรับจับรางวัล จำนวน 1 กล่อง, สมุดโน๊ต จำนวน 13 เล่ม, เอกสารที่เกี่ยวข้องของบริษัท ลัคคิง จำกัด จำนวนหนึ่ง และตู้เซฟ จำนวน 1 ตู้

พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้เป็นการขยายผลจากการจับกุม 2 บิ๊กบอสชาวจีน คอลเซ็นเตอร์ คือ นายยี วานโยว (Mr.YE Wanyou) อายุ 29 ปี สัญชาติจีน และ นายลี่ เว่ยเจีย (Mr.Li Weijie) อายุ 30 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเป็นบอสคอลเซ็นเตอร์ในตึก 25 ชั้น (เมืองปอยเปต) โดยจับกุมได้ ณ หมู่บ้านหรูย่านรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมยึดทรัพย์สินได้จำนวนประมาณ 15 ล้านบาท

สืบสวนขยายผลกระทั่งพบกระเป๋า “วอลเล็ตลับ” จนนำไปสู่การอายัดเงินได้จำนวน 2,477,294.91 USDT หรือเป็นจำนวนประมาณ 84 ล้านบาท รวมทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดและอายัดไว้ได้ทั้งหมดประมาณ 100 ล้านบาท และยังพบหลักฐานว่าทั้งสองพัวพันกับการเป็น ธุระ จัดหา คนไปยังพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านผ่านทาง อ.แม่สอด จ.ตาก และภายในโทรศัพท์มือถือของบอสจีนทั้งสองพบว่าเป็น Admin ที่ควบคุมระบบหลังบ้านบราวเซอร์ที่ใช้หลอกลวง

และยังทราบว่าบอสชาวจีนนั้นยังเป็นเจ้าของบริษัทภายในประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทที่เปิดมาเพื่อใช้ “ขโมยข้อมูลส่วนบุคคล” นำไปขายให้กับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยตรวจพบว่ามีข้อมูลบุคคลรั่วไหลไปแล้วกว่า 88,000 ราย โดยใช้ชื่อบริษัทว่า Luckking อำพรางให้ประชาชนโอนเงินเข้ามาเล่นเกมส์ลุ้นชิงของรางวัล หลังจากที่ได้รางวัลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็จะขอข้อมูลส่วนตัว แต่แท้จริงเป็นการหลอกลวงเอาทั้งเงินและข้อมูลบัตรประชาชน

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT ได้พบพยานหลักฐานสำคัญว่า office ดังกล่าวตั้งอยู่ภายในตึกสำนักงานชื่อดังย่านห้วยขวาง (พื้นที่ สน.สุทธิสาร) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน PCT ได้แอบย่องเข้าไปสอดแนมภายในตึกพบว่ามี “ออฟฟิศคนจีนต้องสงสัย” อีกหลายบริษัททำการอยู่ในตึกดังกล่าว

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า จากการจับกุมสองบอสชาวจีน ก็พบว่าทั้งสองเป็นเจ้าของธุรกิจโดยมีการมาเปิดบริษัทชื่อ ลัคคิง จำกัด โดยใช้คนไทยเป็นนอมินี วิธีการคือจะมีการยิงแอดไปใน TikTok โดยคนที่จะเล่นเกมส์จะต้องเสียเงิน 100 บาทแล้วเข้าไปเล่นเกมส์ ผู้ชนะจะได้รางวัลเป็น iPhone 16 จากนั้นจะขอ ข้อมูลส่วนตัวเพื่ออ้างว่าเป็นหลักฐานข้อมูลยืนยันตัวตนในการรับรางวัล

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจะพบว่าสองบอสชาวจีนมีการเข้ามาประชุม กับพนักงานคนไทยโดยมีการเขียนสคริปต์ ที่ใช้พูดคุยหลอกลวงเหยื่อ และได้มีการตั้งกฎกติกาว่าห้ามพูดว่าตัวเองเป็นมิจฉาชีพในบริษัทนี้ มิฉะนั้นจะถูกไล่ออกทันที ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่สามารถตามยึดทรัพย์ได้เป็นจำนวนเงิน 84 ล้านบาท และเจอผู้เสียหายทั่วประเทศจำนวน 85 ราย ความเสียหาย 55 ล้านบาท ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังจะดำเนินการเฉลี่ยทรัพย์คืนให้กับผู้เสียหายบางส่วน จากนั้นเร่งติดตามตัว พนักงานที่มีรายชื่ออยู่ในบัตร 13 คน มาสอบสวนขยายผลดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ต่อมา พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 กก.สส.บช.น. นำกำลังไป จับกุม MR.ZHANG HONGXIANG สัญชาติจีน บอสคนสุดท้าย ของบริษัทลัคคิง ได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งบนถนนรัชดา ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามซอยรัชดาฯ 11 และจากการตรวจค้นห้องพักพบของกลางหลายรายการ อาทิ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน 9 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง, แฟ้มเอกสารบริษัท ลัคคิง จำกัด จำนวน 5 แฟ้ม, แฟลชไดรว์จำนวน 6 อัน, ใบรับเงินเดือนจำนวน 1 ชุด และสติกเกอร์บริษัท ลัคคิง จำกัด จำนวน 1 ชุด

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากนี้ตํารวจจะขยายผลต่อว่าใน 88,000 รายชื่อนั้น ถูกนําไปใช้ในการกระทําความผิดแล้วหรือไม่ และเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ รวมทั้งจะตรวจสอบว่าเป็นบริษัทที่เชื่อมโยงกับ “แก๊งโอริโอ้” ด้วยหรือไม่ เนื่องจากมีการรับสารภาพกับตํารวจว่าซื้อข้อมูลมาจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเพื่อใช้ในการประกาศไล่เช็กบิลคู่อรินอกเกม Five M

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า การตรวจค้นและจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาลร่วมกับชุด PCT และ สน.สุทธิสาร ได้สนธิกําลังกว่า 30 คน นั่งรถเมล์ ขสมก. ปอ.สาย 516 จากศูนย์สืบนครบาลมายังบริษัทดังกล่าว ที่ตั้งอยู่บริเวณถนนรัชดาภิเษก เนื่องจากในพื้นที่มีกลุ่มคนจีนและท่องเที่ยวจำนวนมาก จึงแฝงตัวมากับรถ ขสมก.เมื่อมาถึงได้เข้าจู่โจมทันที สามารถจับกุมพนักงานคนไทย 12 ราย แต่มีบางส่วนหลบหนีไปได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวดําเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ พล.ต.ต.นพศิลป์ ฝากเตือนพี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อการหลอกลวงให้เล่นเกมต่าง ๆ บนแอปพลิเคชั่น และเมื่อกรอกข้อมูลส่วนบุคลไป อาจถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์นำไปใช้หลอกลวง และเสียทรัพย์สินได้

เบื้องต้นจึงนำตัว MR.ZHANG HONGXIANG ดำเนินคดีในข้อหา “เป็นบุคคลต่างอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดลง” และ“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ส่วนพนักงานทั้ง 12 ราย อาจถูกดำเนินคดีข้อหา จัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์โดยผิดกฎหมาย ส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน