ทลายแก๊งคนจีน เช่าโรงแรมกลางกรุงรายปี ลักลอบทำพนันออนไลน์ ได้ผู้ต้องหา 14 ราย สารภาพ ได้รับค่าจ้างวันละ 300 หยวน ตร.แจ้ง 3 ข้อหา
วันที่ 19 ก.พ.2568 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ทุกหน่วย ตรวจสอบพฤติกรรมกลุ่มคนต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบ ที่มีพฤติกรรมอาจขัดต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมืองก่อความวุ่นวายหรือความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ ตลอดจนการรวมกลุ่มแสดงออกหรือจัดกิจกรรมในลักษณะที่กระทบภาพลักษณ์และความมั่นคงของประเทศ
พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง.ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง.ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง.ผบช.น., พล.ต.ต.ชัยพัชร์ ศรีประเสริฐ รอง.ผบช.น., พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1, พ.ต.อ.เอกภพ ตันประยูร รอง ผบก.น.1, พ.ต.อ.กมล นุ่มหอม รอง.ผบก.น.1, พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รอง.ผบก.น.1,
สั่งการให้ พ.ต.อ.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ ผกก.สน.มักกะสัน, พ.ต.ท.ปิตินันท์ แก้วดวงเทียน รอง.ผกก.ป.สน.มักกะสัน , พ.ต.ท.ศราวุธ วงศ์อาษา สวป.ฯ พ.ต.ท.ธนาธิป จิตราคนี รอง.ผกก.สส.สน.มักกะสัน, พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.สส.บก.น.1 ร่วม กก.1 บก.สส.สตม. ดำเนินการตามสั่งการดังกล่าว
สน.มักกะสัน ได้ตรวจสอบและใช้โครงการ Stop Walk Talk ของฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.มักกะสัน ที่ออกตรวจสอบ ประชาสัมพันธ์ตามโรงแรม อพาร์ตเมนต์ สถานที่พักอาศัยของชาวต่างชาติ และดำเนินการเฝ้าติดตามผู้เช่าพักอาศัย สังเกตพฤติกรรมและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
ทำให้ได้รับข้อมูลเป็นเบาะแสว่า เมื่อช่วงเดือน สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมามีกลุ่มคนจีนจำนวนหลายราย เข้ามาพักอาศัยที่ โรงแรมในพื้นที่ ย่านพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ขอเช่าห้องพักเป็นรายปี 6 ห้อง และมีพฤติการณ์นำคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจำนวนหลายเครื่องขึ้นไปเก็บภายในห้องพัก บางห้องปิดมิดชิดไม่ให้พนักงานเข้าไปทำความสะอาด บางห้องเปิดไว้สามารถเดินหากันได้ตลอดเวลา
นอกจากนั้นยังมีเครื่องคอมพิวเตอร์ภายในห้องแล้วยังมีโทรศัพท์มือถืออีกจำนวนหลายสิบเครื่อง จึงนำข้อมูลเบาะแสดังกล่าว มาร่วมวิเคราะห์ข้อมูล โดยฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องสงสัย และเชื่อได้ว่าน่าจะมีการลักลอบกระทำความผิดกฎหมายจริง
จึงยื่นคำร้องขอหมายค้นห้องพักดังกล่าว โดยศาลได้อนุมัติหมายค้น 6 หมาย ให้เข้าค้นในวันที่ 18 กพ.68 ผลการตรวจค้น พบชาวจีนชาย 13 ราย หญิง 1 ราย รวม 14 ราย เครื่องคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก 20 เครื่อง โทรศัพท์ 25 เครื่อง เงินสด 265,950 บาท 11,746 หยวน 8,000 เยน 407 ดอลลาร์ บุหรี่ 205 ซอง 15 คอตตอล
โดยพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเล่นการพนันบนเกมส์ออนไลน์จีน ในลักษณะเดิมพันคะแนนสูง ต่ำ โดยมีผลได้-เสียเป็นสกุลเงินในเกมส์ และฝาก-ถอนในระบบเป็นสกุลเงินหยวน (RMB) มีเงินหมุนเวียนภายในระบบประมาณ 2 ล้านหยวน (ประมาณ 9 ล้านบาท)
เบื้องต้นกลุ่มผู้ต้องหาชาวจีน เดินทางเข้ามาประเทศไทยเพื่อทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้รับรายได้วันละประมาณ 300 หยวน คิดเป็นเงินไทยวันละ 1,400 บาท มีรายได้เดือนละประมาณ 50,000 บาท จึงจับกุมดำเนินคดีในข้อหาดังนี้
1. ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 12 (2) มีอัตราโทษโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการทางศุลกากร ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.๒๕๖๐ มาตรา 246 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็น 4 เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ ตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 มาตรา 8 การฝ่าฝืนมีโทษตามมาตรา 101 ซึ่งวางหลักว่า ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 5,000 บาทถึง 50,000 บาท ส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป