จับหนุ่มไรเดอร์สวมรอย พาสาววัย 17 ออกนอกเส้นทาง ลวนลามกลางสวนสาธารณะ เหยื่อวิ่งหนีเอาตัวรอด

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 18 มี.ค.68 พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.น.9, พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รอง ผบก.น.9 สั่งการให้ พ.ต.อ.วิชยานนท์ เอกตาแสง ผกก.สน.ท่าข้าม, พ ต.อ.ธิติพงษ์ สียา ผกก.สส.บก.น.9, พ.ต.ท.ธนกร จันรอด รองผกก.สส.สน.ท่าข้าม, พ.ต.ท.ไกรฤกษ์ สิทธิโชติ สว.สส.สน.ท่าข้าม นำกำลังฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม จับกุม นายนันทวัฒน์ หรือแม็ก อายุ 28 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 302/2568 ลงวันที่ 18 มี.ค.68 ข้อหา กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุเกินกว่า 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย พาผู้อื่นไปเพื่ออนาจาร และพรากผู้เยาว์

พร้อมของกลางรถจยย.ฮอนด้า ลีด สีขาว-น้ำตาล ทะเบียน 8ขท 0177 กรุงเทพมหานคร จับกุมได้บริเวณสวนสาธารณะบึงรางเข้ ซอยเทียนทะเล 7 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.

สืบเนื่องจากมีหนุ่มไรเดอร์รับส่งผู้โดยสารรายหนึ่ง โพสต์คลิปในเฟซบุ๊ก เป็นคลิปหญิงสาวนั่งอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ โดยบอกว่า “ใครไม่รู้ ขี่รถพาหนูไปคนละเส้นทาง พาไปสวนอะไรไม่รู้ แล้วลวนลามหนู” โพสต์ระบุไว้ว่า น้องเรียกไรเดอร์ แล้วโดนลวนลาม จับของน้องพาน้องไปที่เปลี่ยว ไปแถวเทียนทะเล 7 แล้วบอกน้องไปนั่งเล่นกับพี่ไหม น้องเลยโทรมาหาผมเพราะผมเป็นคนขับประจำที่น้องเรียกผมให้ไปส่งตอนเช้า แต่ตอนนั้นมันดึกแล้วน้องเลยไม่โทรมาหาผม เพราะเกรงใจ เรื่องเลยเกิดแบบนี้

น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พนักงานขายของในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านพระราม 2 ซึ่งเป็นผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนเลิกงานเรียกวินผ่านแอปพลิเคชันให้มารับที่ห้างดังกล่าวไปส่งที่บ้านพักแถวเพชรเกษม พบหนุ่มไรเดอร์มาจอดรอหันมายิ้มให้ ตนไม่ได้คิดอะไร เดินไปถามว่าใช่รถที่เรียกไม่ แล้วขึ้นรถมา

หนุ่มไรเดอร์ถามตนว่า ยังเรียนอยู่หรอ ตนบอกว่าไม่ได้เรียน ทำงานแล้ว จากนั้นก็ไม่ได้คุยอะไรอีก แต่ปรากฏว่า ไม่ได้ขี่ไปตามเส้นทางปกติ แต่ตรงไปอีกทาง ตนถามว่าจะพาไปไหน เขาบอกว่า จะพากลับอีกทาง ตอนนั้นตนไม่ได้คิดอะไรเพราะอีกทางก็กลับได้ แต่จะอ้อมกว่า
มาถึงถนนเทียนทะเล ขี่เลี้ยวเข้าไป มันเป็นคนละเส้นทางกับทางกลับบ้านตนเลยถามว่า จะพามาทำไมทางนี้ เขาเลยบอกว่า ขอพาไปนั่งเล่นที่สวนหน่อย ตนบอกว่าไม่ไป ทำงานเหนื่อยแล้ว เดี๋ยวแม่ว่าด้วย แต่คนขับไม่ฟังแล้วพาตนเข้าไปในซอยเทียนทะเล 7 มาทราบภายหลังเป็นสวนสาธารณะบึงรางเข้อยู่ริมถนน

น.ส.เอ กล่าวอีกว่า ตนพยายามขัดขืนแต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอม ขี่รถเข้าไปจอดในสวนจุดที่มืด แล้วดึงมือตนข้ามสะพานไป แล้วกอดจากด้านหลัง จับหน้าอกตน ก่อนดึงตนข้ามไปอีกฝั่งเป็นที่มืดใต้ต้นไม้ ผู้ก่อเหตุมองไปรอบๆ พอเห็นว่าไม่มีคน ถกเสื้อตนขึ้น พยายามลวนลามเหมือนจะข่มขืน ตนไม่ยอม พยายามสะบัดออก แต่สู้แรงไม่ไหว ผู้ก่อเหตุก็พูดว่า “พี่ขอหน่อยนะ” ตนโวยวายว่าไม่ได้ แล้วพยายามสะบัดออก วิ่งหนีออกมา ระหว่างที่วิ่งหนีตนกลัวว่าผู้ก่อเหตุจะวิ่งตามและไม่รู้ว่ามีอาวุธหรือไม่ พอมาถึงจุดที่พอมีคน มีไฟส่องสว่างโทรศัพท์หาหนุ่มไรเดอร์อีกคนที่รู้จักกันให้มารับ แล้วโทรหาพี่ที่ทำงานให้คุยเป็นเพื่อน พอผู้ก่อเหตุตามมาเห็นว่าตนโทรหาคนอื่น ขี่รถหนีไป ตอนที่ยืนรอคนมารับ ตนระแวงมาก กลัวผู้ก่อเหตุจะวนกลับมาอีก

น.ส.เอ เผยต่ออีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนรู้สึกกลัวมากจนสติแตก ทำอะไรไม่ถูก ตอนแรกที่ผู้ก่อเหตุขี่ออกนอกเส้นทางก็เอะใจแต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกพามากระทำถึงขนาดนี้ ตอนนั้นใจตนคิดถึงแต่แม่ กลัวไม่รอด ที่ผ่านมาเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันนี้เป็นประจำมานานกว่า 1 ปีแล้ว ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ นี่เป็นครั้งแรก หลังจากนี้คงไม่กล้าใช้อีกแล้ว

ทั้งนี้ ตนสังเกตว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนละคนกับรูปที่ปรากฏในแอปพลิเคชันตอนที่เรียกรถ และรุ่นรถกับทะเบียนรถก็ไม่ตรงกัน คาดว่าน่าจะนำบัญชีคนอื่นมาใช้วิ่งงาน และเท่าที่ดูลักษณะการพูดจาคิดว่าอาจจะเสพยาเสพติดด้วย ตอนแรกจะไม่ไปแจ้งความ คิดว่าให้จบกันไป เพราะไม่อยากคิดถึงเหตุการณ์นี้แล้ว แต่แม่ตนไม่ยอม จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด กำลังประสานขอข้อมูลคนขี่จากทางแอปพลิเคชันด้วย

ภายหลังรับแจ้งความชุดจับกุมตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่า ตนทำงานเป็นพนักงานแพ็กของบริษัทแห่งหนึ่ง และอ้างว่ารู้จักกับ น.ส.เอ จากเพจๆ หนึ่ง ก่อนเกิดเหตุจอดรถอยู่หน้าห้างดังกล่าว ย่านพระราม 2 และรับ น.ส.เอ ไป ขอปฏิเสธไม่ได้ทำอนาจาร หลังจากนั้นจึงนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน