เร่งไล่ล่าหนุ่มเมียนมา ปีนเข้าบ้าน แย่งปืนเจ้าของฟิตเนส ก่อนลั่นใส่เสียชีวิตเมื่อคืน หลังพบขโมยรถผู้ตายหลบหนีมุ่งหน้าไปทางรังสิต
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 11 พ.ค.2568 ที่สน.เพชรเกษม พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น พ.ต.อ.ธิติพงษ์ สียา ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน. เพชรเกษม พร้อมชุดสืบสวนได้ร่วมกันประชุมการไล่ล่าตัวนายไสหาน อายุ 23 ปี คนร้ายฆ่านายยุทธโรจน์ อายุ 70 ปี เจ้าของฟิตเนส ก่อนฉกเอาอาวุธปืนลูกโม่ขนาด.38 โทรศัพท์มือถือ และรถยนต์ของผู้ตายหลบหนีไป
จากการตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของนายไสหาน ซึ่งขับรถไม่เก่ง และไม่รู้เส้นทาง โดยขับผ่านสี่แยกบ้านแขก แถมยังเฉี่ยวชนจยย.แล้วหลบหนี คนขี่รถจยย.ไล่ตาม แล้วไปชนจยย.อีก 2 คัน ในท้องที่สน.ชนะสงคราม จนทะเบียนหน้าหลุด จากนั้นได้ขับหลบหนีไปถึงรังสิต ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนกำลังไล่กล้องเกือบใกล้ถึงตัวคนร้ายแล้ว
ส่วนมูลเหตุการก่อเหตุครั้งนี้ น.ส.พอง อายุ 18 ปี ตั้งท้อง 5 เดือน แฟนสาวของนายไสหาน ซึ่งถูกจับกุมข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้ให้รายละเอียดว่า ตนเข้ามาทำงานกับนายยุทธโรจน์ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีหน้าที่ดูแลนางยุวดี อายุ 90 ปี แม่ของนายยุทธโรจน์
ส่วนนายไสหาน เคยมาหาตน 1 ครั้งแล้วมาขอเงินไปซื้อเหล้า ซึ่งนายไสหาน สามีนั้นเป็นคนติดเหล้า เมาแล้วชอบทำร้ายร่างกายตน ตอนแรกตนคุยกับนายจ้าง ว่าจะให้แฟนมาทำงานด้วยกัน นายจ้างตกลงรับเข้าทำงาน แต่พอตนเล่าถึงพฤติกรรมแฟน ทำให้นายจ้างเปลี่ยนใจ
ก่อนเกิดเหตุแฟนโทรศัพท์มาหา บอกว่าจะเข้ามาฆ่าตน ตนจึงเล่าให้นายจ้างฟัง สักพักแฟนก็ปีนรั้วเข้ามาในบ้าน เอากระเป๋าเสื้อผ้าวางไว้หน้าบ้าน แล้วพยายามจะเข้ามาหาตน นายจ้างจึงเอาอาวุธปืนออกไปขู่ไม่ให้แฟนตนเข้ามา แต่แฟนตนกระโดดแย่งปืน เกิดการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน จนกระทั่งปืนลั่นถูกนายจ้างจนเสียชีวิต
จากนั้นแฟนได้ฉวยเอาอาวุธปืน โทรศัพท์มือถือของนายจ้างติดมือไปด้วย ก่อนจะขับรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วีของนายจ้างที่เสียบกุญแจคาไว้หลบหนีไป โดยตนนั้นอยากจะขอโทษกับทางครอบครัวของนายจ้างที่ต้องมาเสียชีวิตในครั้งนี้
ขณะเดียวกันที่หน่วยนิติพยาธิ ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช ญาติของนายยุทธโรจน์ ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาติดต่อขอฝากร่างเอาไว้ที่นิติเวชก่อน แล้วในวันพรุ่งนี้ทางญาติจะเดินทางมารับร่างเพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดย่านเจริญนคร แต่ยังไม่ได้กำหนดว่าจะเอาไว้ที่วัดไหน และจะมีการฌาปณกิจศพในวันอังคาร
เพราะทางด้านผู้เสียชีวิตได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ ว่าเมื่อตนเองเสียชีวิตให้จัดงานศพแบบเรียบง่ายที่สุด แล้วไม่ต้องการให้มีการตั้งสวดพระอภิธรรมศพนาน ต้องการที่จะให้ทางลูกหลานได้จัดการงานศพของตนแบบเร็วที่สุด ทางญาติก็เลยต้องทำตามพินัยกรรมที่ทางผู้เสียชีวิตได้ทำเอาไว้ ส่วนถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ทางญาติก็จะออกมาชี้แจงอีกที
ส่วนในเรื่องของคดี ทางญาติอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งจับกุมคนร้ายให้มารับโทษทางกฎหมายให้ได้โดยไว เพราะว่าทางญาติเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ซึ่งภายในบ้านที่เกิดเหตุ ยังมีคนชราที่นอนป่วยอยู่ด้วย ส่วนเรื่องการออกมาสัมภาษณ์กับสื่อมวลชนนั้น ทางญาติขอไปปรึกษากันก่อนว่าใครจะออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนได้บ้าง ซึ่งตอนนี้ทางลูกหลานทุกคนต่างก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงหวังว่าพี่ๆสื่อมวลชนคงจะเข้าใจถึงการสูญเสียในครั้งนี้