นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในคอนโดมิเนียมของต่างชาติ ทั่วประเทศ ในไตรมาส 1 ปี 2565 มีจำนวน 2,107 หน่วย ลดลง -10.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่มีจำนวนหน่วยสูงกว่าค่าเฉลี่ย 2 ปี ในช่วงโควิด-19 (ปี 2563-2564) ที่เฉลี่ยต่อไตรมาส 2,061 หน่วย ส่วนมูลค่าการโอนรวม 10,262 ล้านบาท ลดลง -6.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ย 2 ปี ในช่วง โควิด-19 ที่มีมูลค่าการโอนเฉลี่ยต่อไตรมาสที่ 9,683 ล้านบาท
ขณะที่จำนวนหน่วยที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคอนโดมิเนียมในไตรมาส 1 ปี 2565 มีจำนวนทั้งหมด 19,886 หน่วย ดังนั้นสัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติคิดเป็น 10.6% ที่เหลือเป็นคนไทย 89.4% โดยสัดส่วนต่างชาติลดลงจาก 10.7% ในช่วงเดียวกันปีก่อน ในขณะที่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิห้องชุดในไตรมาส 1 ปี 2565 อยู่ที่ 52,291 ล้านบาท โดย 19.6% เป็นต่างชาติ ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีสัดส่วน 17.2%
อย่างไรก็ดี จากยอดการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในคอนโดมิเนียมของชาวต่างชาติในไตรมาส 1 ปี 2565 จำนวน 2,107 หน่วย โดยเป็นโครงการใหม่ 65.1% ลดลงจาก 80.3% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งที่เหลืออีก 34.9% เป็นการโอนห้องชุดมือสอง
ขณะที่ในเชิงมูลค่าการโอนห้องชุดคอนโดมิเนียมของต่างชาติพบว่าในไตรมาส 1 ปีนี้ เป็นห้องชุดใหม่ 71.8% ลดลงจาก 86.1% ของไตรมาสเดียวกันปีก่อนหรือห้องชุดมือสองมีสัดส่วนมูลค่าการโอนเพิ่มจาก 13.9% เป็น 28.2% สะท้อนว่าต่างชาติยังนิยมห้องชุดใหม่มากกว่าห้องชุดมือสอง แต่ห้องชุดมือสองก็มีการขยายสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ หากดูที่ระดับราคาห้องชุดที่เป็นที่นิยมของต่างชาติในไตรมาส 1 ปี 2565 พบว่าช่วงราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มีสัดส่วนการโอนถึง 52.6% รองลงมาเป็นระดับราคา 3.01-5 ล้านบาท มีสัดส่วน 23.9% ระดับราคา 5.01-10.00 ล้านบาท มีสัดส่วน 14.4% และระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาท มีสัดส่วน 9% โดยสอดคล้องกับขนาดห้องชุดที่เป็นที่นิยมของคนต่างชาติ คือ 30 – 60 ตร.ม. หรือ 1 – 2 ห้องนอน คิดเป็นสัดส่วน 46% ที่เหลือเป็นขนาดห้อง 100 ตร.ม.ขึ้นไป
ขณะที่จำแนกเป็นสัญชาติของต่างชาติที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดทั่วประเทศ ยังคงเป็นชาวจีน 45% แต่ลดลงจากไตรมาส 4 ปี 2564 ซึ่งมีสัดส่วน 53.7% โดยถือเป็นสัดส่วนการโอนของชาวจีนที่ไม่ถึง 50% เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นผลจากชาวจีนไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ และหากคิดเป็นมูลค่าการโอน 4,570 ล้านบาท หรือ 44.5% ลดลงจากไตรมาสที่แล้ว ซึ่งมีสัดส่วน 51.2% ส่วนต่างชาติที่โอนห้องชุดมากเป็นอันดับรองลงมา ได้แก่ รัสเซีย 6.4% สหรัฐอเมริกา 5.4% สหราชอาณาจักร 4.3% และเยอรมัน 3.8%
แต่อย่างไรก็ดี หากเทียบเป็นมูลค่าการโอนคอนโดมิเนียมของต่างชาติในไตรมาสปีนี้ พบว่า สัญชาติ ที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศ โดย จีน ยังครองที่ 1 รองลงมา คือ รัสเซีย ขณะที่ กัมพูชา ใกล้เคียง ไต้หวัน และฝรั่งเศส ด้วยสัดส่วน 3.9% และ 3.8
สำหรับ 5 จังหวัดแรก ที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของต่างชาติสูงสุด ในไตรมาส 1 ปี 2565 ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี สมุทรปราการ ภูเก็ต และเชียงใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพฯ และชลบุรี รวมกันสูงถึง 71.5% ของทั่วประเทศ
