น.ส.ดารณี ทองประชุม ผู้จัดการกลุ่มโครงการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด ในฐานะจัดงาน เพ็ท เอ็กซ์โป ไทยแลนด์ 2018 (Pet Expo Thailand 2018) เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจสัตว์เลี้ยงมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 10-15% ทุกปี โดยปี 2561 ก็เช่นกันคาดว่าจะเติบโตอย่างน้อย 10% หรือมีมูลค่าตลาดราว 3.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2.93 หมื่นล้านบาท ในปี 2560 โดยธุรกิจอาหารสัตว์มีสัดส่วนมากสุดที่ 45% หรือประมาณ 1.33 หมื่นล้านบาท ขณะที่ธุรกิจดูแลสุขภาพสัตว์ อาทิ โรงพยาบาล คลินิก สปา อาบน้ำ ตัดขน โรงเรียนฝึก โรงแรม และบริการอื่นๆ มีสัดส่วน 32% หรือประมาณ 9,300 ล้านบาท และธุรกิจ สินค้าอื่นๆ ที่ เกี่ยวข้อง อาทิ เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของเล่น สัดส่วน 23% หรือประมาณ 6,700 ล้านบาท

น.ส.ดารณี กล่าวด้วยว่า สำหรับแนวโน้มธุรกิจสัตว์เลี้ยงที่กำลังมาแรงในขณะนี้ คือ ธุรกิจด้านสันทนาการ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสระว่ายน้ำ และสปา เป็นต้น ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีสัดส่วนตลาดเพิ่มขึ้นจาก 5-6% ของมูลค่าตลาดรวมเป็นประมาณ 10% โดยเป็นผลมาจากผู้เลี้ยงอยากหากิจกรรมให้สัตว์ เพื่อสุขภาพที่ดี และให้สัตว์มีความสุข นอกจากนี้ธุรกิจที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ คือธุรกิจความงามสัตว์เลี้ยงเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของสัตว์เลี้ยง เช่น ธุรกิจจัดฟันสุนัข และ ฉีดฟิลเลอร์หนังตา โดยเฉพาะสุนัขที่มีอายุมาก ซึ่งถือเป็นการศัลยกรรมที่มีส่วนต่อการดูแลสุขภาพชีวิตที่ดีของสัตว์เลี้ยง

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจสัตว์เลี้ยงดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันคนไทยใช้ชีวิตแบบสังคมเมืองมากขึ้น มีคนโสดมากขึ้น ประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้น รวมไปถึงขนาดครอบครัวที่เล็กลง การอยู่อาศัยในคอนโดเพิ่มขึ้น จึงนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนคลายเหงา และยอมใช้จ่ายเงินเพื่อให้สัตว์เลี้ยงให้มีความสุข มีสุขภาพแข็งแรง และมีความสวยงาม

อย่างไรก็ดี การจัดงานเพ็ทเอ็กโป ไทยแลนด์ 2018 ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 18 ภายใต้แนวคิด จักรวาลสัตว์เลี้ยง เป็นงานแสดงสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง โดยมีผู้เข้าร่วมออกบูธกว่า 200 ร้านค้า อาทิ อาหารสัตว์ เวชภัณฑ์ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงขน อุปกรณ์ตัดแต่งขน เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของเล่น และอุปกรณ์พัฒนาทักษะ ตลอดจนบริการโรงแรม ที่พักที่นำสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ โรงพยาบาลสัตว์ และฟาร์มสัตว์เลี้ยง เป็นต้น

โดยภายในงานได้แบ่งออกเป็นโซนต่างๆ เริ่มตั้งแต่โซนกระต่าย ซึ่งจะมีพันธุ์แปลก เช่น แพรี่ด็อกซ์ โซนสัตว์พิเศษ อาทิ กิ้งก่า แมลงสาบมาดากัสกา และงูสายพันธุ์ต่างๆ โซนสัตว์เลี้ยงจากฟาร์ม อาทิ ม้าแคระ แรคคูน เมียร์แคท และลามา โซนนกพันธุ์สวยงาม อาทิ นกฟินซ์ โซนนกพันธุ์นักล่า อาทิ นกเค้าแมว นกเหยี่ยว และโซนตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยง อีกทั้งในปีนี้เป็นปีแรกที่จะจัดการแข่งขันกระโดดน้ำสำหรับสัตว์เลี้ยงภายในงานด้วย








Advertisement

โดยงานจะมีขึ้นในวันที่ 31 พ.ค.-3 มิ.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ที่อาคารแสดงสินค้า โซน ซี ชั้น 1-2 เอเทรียม และโซนพลาซ่า ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 110,000 คน เพิ่มจากปีที่แล้วที่มี 100,000 คน ส่วนเงินสะพัดในงานประมาณ 88 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน