นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโครงการบ้านแสนสิริ พัฒนาการ บ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ 36 ยูนิต บนที่ดิน 37 ไร่ ทำเลถนนพัฒนาการซอย 30 มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการแฟล็กชิพแห่งที่ 4 ของแสนสิริ ในรอบ 34 ปี ซึ่งแฟล็กชิพแห่งแรกภายใต้โครงการบ้านไข่มุก คอนโดมิเนียมริมชายหาดหัวหิน ปัจจุบันมีการปรับตัวของราคาสูงถึง 1,000% จาก 7 ล้านบาท เป็น 80 ล้านบาทในปัจจุบัน

ถัดมาเป็นโครงการบ้านแสนสิริ สุขุมวิท 67 บ้านเดี่ยวบนถนนสุขุมวิท ราคาปรับขึ้น 85% จาก 27 ล้านบาท ล่าสุดอยู่ที่ 50 ล้านบาท และโครงการ 98 ไวร์เลส คอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักชัวรี่บนถนนวิทยุ ปัจจุบันราคาขายอยู่ที่ 650,000 บาท/ตร.ม. โดยปรับขึ้นจากราคาเปิดตัว 550,000 บาท/ตร.ม. หรือเพิ่มขึ้น 20% และเป็นไปได้ว่าผลตอบแทนจากการลงทุนจะสูงมาก เพราะปัจจุบันมีผู้ต้องการเช่าแล้วโดยให้ค่าเช่ามากกว่า 300,000 บาท/เดือน

สำหรับโครงการบ้านแสนสิริ พัฒนาการ บริษัทใช้เวลาพัฒนากว่า 3 ปี เป็นโครงการที่ถูกออกแบบภายใต้แนวคิดสถาปัตยกรรมยุครีเจนซี่ (Regency) จากประเทศอังกฤษ มีความงามสง่าเหนือกาลเวลา มีความเป็นส่วนตัวสูงสุดด้วยจำนวนบ้าน 36 ยูนิต บนที่ดิน 37 ไร่ ถนนพัฒนาการซอย 30 เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ประกอบด้วยบ้าน 4 แบบบนที่ดินขนาด 150-560 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 459-941 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 65-240 ล้านบาท

ทั้งนี้ โครงการได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง (ไฮเน็ตเวิร์ธ) ในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 30-50 ปี หลังจากเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทเริ่มเปิดให้ลูกค้าเก่าในกลุ่ม “สิริ ไพรออริตี้” ซึ่งเป็นฐานลูกค้าที่ซื้อบ้านของแสนสิริในระดับราคา 80 ล้านบาทขึ้นไป ที่ปัจจุบันมีประมาณ 200 ราย และฐานลูกค้าไพรเวต แบงกิ้ง หรือลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง (ไฮเน็ตเวิร์ธ) ในประเทศไทย เข้าชมโครงการและบ้านตัวอย่างพร้อมเปิดการขายเป็นกลุ่มแรกซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มีความเชื่อมั่นในการออกแบบและบริการของแสนสิริอยู่แล้ว และได้การตอบรับดี โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 30-50 ปี ทำให้ล่าสุดมียอดขายแล้ว 12 ยูนิต หรือราว 1,3000 ล้านบาท โดยคิดเป็น 40% ของมูลค่ารวม 3,200 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างทยอยก่อสร้างบ้าน 8 ยูนิตแรก และจะแล้วเสร็จพร้อมโอนบางส่วนภายในต้นปีหน้า พร้อมกับตั้งเป้าปิดการขายทั้งโครงการภายในปีหน้า

“ฐานลูกค้าของบ้านแสนสิริพัฒนาการ เป็นกลุ่มที่อาจมีบ้านที่สร้างเองอยู่แล้ว แต่อยากเปลี่ยนแนวการอยู่อาศัย อยากมีระดับ ได้ปลอดภัย ซึ่งบ้านจัดสรรเดี๋ยวนี้นอกจากทำเลดีแล้ว วัสดุที่ใช้ก็สามารถทำได้ใกล้เคียงหรือดีกว่าบ้านสร้างเองด้วย อีกทั้งโครงการในระดับแฟล็กชิพอย่างนี้ความยากไม่เพียงแต่การหาทำเล ต้องอยู่ใกล้ใจกลางกรุงเทพฯ แต่ขนาดของที่ดินต้องเหมาะสมด้วย แต่ทั้งนี้ไม่แน่ว่าหลังจากนี้เราอาจจะทำโครงการแฟล็กชิพขนาดเล็กออกมาก็ได้”นายอภิชาตกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน