น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ เปิดเผย ภายหลังการเป็นสักขีพยานร่วมกับ นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ใน การลงนามในข้อตกลง( MOU) ระหว่างบริษัท เมดิฟูดส์ และบริษัท เจอเจียงจงผานซีเรียลแอนด์ออยล์ พร้อมเร่งผลักดันข้าว กข 43 สู่ตลาดจีน ทั้งช่องทางการค้าปกติ และการขายผ่านระบบ e-Commerce บนเว็บไซต์ Tmall.com ว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นผลต่อยอดจากความร่วมมือกับบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป จำกัด ในการส่งเสริมสินค้าเกษตรและนวัตกรรมเกษตรไทยให้สามารถเจาะตลาดจีนแบบส่งตรงถึงมือผู้บริโภค หรือ B2C ผ่านเว็บไซต์ Tmall.com

โดยได้เปิดตัว Thai Rice Flagship Store บนเว็บไซต์ Tmall.com เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และร่วมมือกับอาลีบาบาผลักดันทั้งสินค้าเกษตรอื่น เช่น ข้าว ผลิตภัณฑ์จากข้าว ผลไม้สด และผลไม้แปรรูป จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 3 เดือน ได้รับผลตอบรับอย่างดี อย่างไรก็ตาม ช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. ที่จะถึงนี้จะมีผลผลิตข้าว กข 43 ออกสู่ตลาดปริมาณ 13,000 ตัน ดังนั้นกระทรวงพาณิชย์จึงต้องเร่งทำตลาด และจีนเป็นประเทศแรกที่สนใจ โดยหลังจากนี้กรมการค้าต่างประเทศยังมีแผนจะเดินสายโปรโมทข้าว กข 43 ในอีกหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดาออสเตรเลีย และในอาเซียน เป็นต้น

โดยกำหนดเป้าหมายนำเข้าข้าว ปริมาณ 10,000 ตัน และบริษัท เจอเจียงจงผานซีเรียลแอนด์ออยล์ จะเป็นรายแรกที่นำเข้าข้าว กข43 สู่เข้าตลาดจีน อีกทั้งยังได้ร่วมมือกับ Tmall.com ผลักดันข้าว กข 43 ขึ้นขายบนเว็บไซต์ดังกล่าว ภายใต้โครงการ Thai Rice Flagship Store เพื่อเจาะตลาดออนไลน์ในจีน

ทั้งนี้ ข้าว กข 43 เป็นพันธุ์ข้าวที่ศึกษาวิจัยแล้วว่ามีค่าการแตกตัวเป็นน้ำตาลน้อย และมีค่าดัชนีน้ำตาลอยู่ในระดับปานกลางค่อนข้างต่ำ จึงถือเป็นข้าวทางเลือกของผู้ใส่ใจสุขภาพ จุดเด่นของข้าวพันธุ์ กข 43 คือ เป็นข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง ต้านทานโรคไหม้ คุณภาพการสีดี สามารถนำมาทำเป็นข้าวขาว 100% ได้ เมื่อหุงต้มจะมีลักษณะนุ่ม มีกลิ่นหอม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน