ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2561 เวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร จังหวัดระนอง-ชุมพร

นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ หอการค้าไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ภาคเอกชนได้ติดตามแผนการพัฒนาพื้นที่จังหวัดภาคใต้และเสนอเร่งรัดโครงการ ทั้งรถไฟทางคู่ ระบบถนน ระบบขนส่งทางน้ำ ทางอากาศ ภาคเกษตร สิ่งแวดล้อม และสังคม รวมกว่า 34 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 2 แสนล้านบาท โดยในที่ประชุม นายกรัฐมนตรี เห็นชอบในหลักการ มีการสอบถามรายละเอียดเป็นรายโครงการกับภาคเอกชน และเตรียมนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม. สัญจรที่ชุมพร เพื่อเห็นชอบกรอบดำเนินการต่อไป

ในด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ เพื่อสนับสนุนด้านอุตสาหกรรม การค้า การลงทุน และการค้าชายแดน ประกอบด้วยโครงการสำคัญ เช่น โครงการท่าเรืออเนกประสงค์ เพื่อเชื่อมแลนด์บริดจ์ของท่าเรือชุมพร-ระนอง วงเงิน 5,000 ล้านบาท โครงข่ายระบบราง รถไฟทางคู่ เส้นทาง สุราษฎร์ธานี-ดอนสัก 11,000 ล้านบาท รถไฟทางคู่ เส้นทาง สุราษฎร์ธานี-ท่านุ่น 34,000 ล้านบาท และเสนอเห็นชอบหลักการโครงการรถไฟทางคู่เส้นทาง ชุมพร-ระนอง 12,000 ล้านบาท โดยเสนอขอเร่งรัดใช้งบประมาณปี 2563 ซึ่งมีการศึกษาความเป็นไปได้ และออกแบบโครงการในบางเส้นทางแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีการเสนอเร่งรัดการก่อสร้างและพัฒนาถนนเลียบชายฝั่งอ่าวไทย (Thailand Riviera) เพื่อให้มีการพัฒนาตามแนวชายฝั่งเชื่อมต่อจากเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง และสงขลา เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชน เป็นการพัฒนาตามแนวชายฝั่งให้เกิดประโยชน์สูงสุด เสนอศึกษาโครงการรถไฟเชื่อมท่านุ่น-สนามบินกระบี่ ในด้านการท่องเที่ยว เสนอให้มีการลงทุนติดตั้ง สมาร์ทซีซีทีวี ทั้งทางบกและน้ำ เสนอโครงการโรงพยาบาลทุติยภูมิ สุราษฎร์ธานี รองรับการท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน

“เอกชนพอใจผลการพูดคุยกับนายกฯ ครั้งนี้มาก เพราะนายกฯ ลงรายละเอียดทุกโครงการไม่เหมือนเมื่อครั้งเดินทางมาประชุมครม.สัญจร รอบที่แล้วที่จังหวัดสงขลา ที่เห็นแต่ภาพรวมโครงการ พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบรับข้อเสนอไป เร่งทำด้วยการจัดลำดับความสำคัญของโครงการ และนายกฯ ยังบอกด้วยว่า ที่ผ่านมามีหลายโครงการที่ทำแต่ไม่น่าเชื่อว่า บางโครงการยังไม่ได้ดันในพื้นที่ภาคใต้ จึงได้รับทุกข้อเสนอ และจะเอาเข้าไปคุยในครม.ต่อไป ซึ่งถ้าผลักดันได้ทุกโครงการ ภาคเอกชนเชื่อว่าจะช่วยดันเศรษฐกิจภาคใต้ให้โตได้มากกว่าปีละ 1.2 ล้านล้านบาท”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน