นายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท. ได้เปิดขายเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (อีอ๊อกชั่น) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ระยะทางรวม 668 กิโลเมตร มูลค่ารวม 9.58 หมื่นล้านบาท ระหว่างวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา ถึงวันที่ 5 ม.ค. 2560 ล่าสุดมีผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่เข้าซื้อซองเอกสารประกวดราคาแล้ว 6-7 ราย และคาดว่าก่อนถึง 5 ม.ค. จะมีเอกชนเข้าซื้อซองประกวดราคาเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กซึ่งต้องหาข้อสรุปเรื่องการจับมือกับพันธมิตรเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขการประมูล ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่ไม่จำเป็นต้องจับคู่กับใคร จึงสามารถซื้อซองประกวดราคาได้ทันที
รถไฟทางคู่ที่เปิดประมูลในครั้งนี้ประกอบด้วย 5 เส้นทาง ได้แก่ 1. เส้นทางนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กิโลเมตร วงเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท, 2. เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กิโลเมตร วงเงิน 2.3 หมื่นล้านบาท 3. เส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ 132 กิโลเมตร วงเงิน 2.8 หมื่นล้านบาท, 4. เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตร วงเงิน 9.8 พันล้านบาท และ 5. เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. ถึงวานนี้ มีเอกชนซื้อซองประกวดราคาแล้วจำนวน 8 ราย ประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK จำนวน 5 โครงการ, บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC จำนวน 5 โครงการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD จำนวน 5 โครงการ, บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือUNIQ จำนวน 5 โครงการ, บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด จำนวน 1 โครงการ คือช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ, บริษัท เอ.เอส. แอสโซซิเอท เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด จำนวน 5 โครงการ, บริษัท ทิพากร จำกัด 5 โครงการ และกิจการร่วมค้า พี.ซี.ที 5 โครงการ
สำหรับขั้นตอนหลังปิดขายเอกสารประกวดราคา ทาง ร.ฟ.ท. จะพาเอกชนไปดูสถานที่ก่อสร้างภาคสนามวันที่ 11 ม.ค. 2560 และจะจัดประชุมก่อนการเสนอราคาในวันที่ 12 ม.ค. หลังจากนั้นจะให้เวลาเอกชน 15 วันเพื่อให้เอกชนจัดเตรียมและยื่นข้อเสนอด้านเทคนิค ก่อนแจ้งผลผู้ผ่านคุณสมบัติและมีสิทธิ์เสนอราคาวันที่ 20 ก.พ. 2560 จากนั้นจะเปิดให้ยื่นข้อเสนอด้านราคา 2 วัน คือ วันที่ 1-2 มี.ค. และทราบผลการประกวดราคาภายในวันนั้น โดย ร.ฟ.ท. ต้องเจรจากับผู้เสนอราคาต่ำสุด ก่อนเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามลำดับ ซึ่งคาดว่าจะลงนามในสัญญาได้ทั้งหมดภายในเดือน มี.ค. 2560
