ห้างใหญ่ยื่นสรรพากรขอเปิดคืนแวตนักท่องเที่ยว หวังต่าวชาติช็อปต่อทำเงินหมุนเวียนในประเทศ ชี้ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ขอคืนแวตแล้วกว่า 2 ล้านราย คิดเป็นเงินกว่า 2,000-3,000 ล้านบาท

ห้างใหญ่ยื่นขอเปิดคืนแวต – นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยถึงการเปิดรับสมัครตัวแทนคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรในเมือง ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถมายื่นคำร้องขอประกอบธุรกิจคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับนักท่องเที่ยว หรือ TAX REFUND ว่า ขณะนี้กรมสรรพากรได้ปิดรับสมัครแล้ว ปรากฏว่า มีนิติบุคคลที่สนใจยื่นใบสมัครทั้งสิ้น 3 ราย ซึ่งมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เข้าร่วมโครงการนี้ด้วยโดยอยู่ระหว่างการตรวจคุณสมบัติ เช่น ต้องเป็นนิติบุคคล มีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 25 ล้านบาท และเตรียมแจ้งผลการพิจารณาให้ทราบ เพื่อเตรียมเปิดโครงการนำร่องการให้บริการนี้เป็นเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2561 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2562

เบื้องต้นกำหนดให้นิติบุคคล 1 ราย สามารถเปิดจุดให้บริการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ แวต เป็นเงินสดแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติได้ 3 จุด เน้นจุดบริการในกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากๆ ก่อน โดยจะวัดผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือน เพื่อตัดสินใจว่าควรจะดำเนินการโครงการในลักษณะใดต่อไป เพราะเป้าหมายของการทำโครงการนี้ เพราะจากศึกษาพบว่าการคืนภาษีที่สนามบิน นักท่องเที่ยวจะเอาเงินกลับบ้านไปเลย แต่หากมีการคืนตามห้างหรือจุดที่ให้บริการในสถานที่ท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจะนำเงินนั้นกลับมาใช้จ่ายในประเทศเราต่อ ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับที่ประเทศญี่ปุ่นทำ ที่มีการจ่ายภาษีคืนให้นักท่องเที่ยวที่ร้านค้า ซึ่งกรณีของญี่ปุ่นต้องมีการใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 5,000 บาทต่อ 1 ใบเสร็จ แต่กรณีของไทย กำหนดให้สามารถคืนภาษีได้ต้องมียอดซื้อ 2,000 บาทขึ้นไป ต่อ 1 ใบเสร็จ

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขอคืนแวตแล้วมีจำนวนกว่า 2 ล้านราย คิดเป็นเงินภาษีที่ขอคืนกว่า 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งมาตรการนี้มุ่งหวังให้นักท่องเที่ยวที่ได้เงินภาษีคืน นำเงินมาใช้จ่ายต่อในประเทศไทยให้มากที่สุด เป้าหมายระยะยาว คือการส่งเสริมให้ประเทศไทย เป็นช็อปปิ้งพาราไดซ์ของนักท่องเที่ยว

“จะทำโครงการทดลองช่วง 6 เดือนก่อน เป็นเหมือนการทำในแซนบอกซ์ยังจำกัดให้นิติบุคคล 1 ราย เปิดจุดให้บริการได้ 3 จุด เพราะต้องเชื่อมข้อมูลกับกรมสรรพากร การวัดผลจะดูว่ามีเงินหมุนเวียนเข้าระบบเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใด และมีการทุจริตหรือไม่ เพราะอย่างกรณีของญี่ปุ่น สินค้าที่ขอคืนภาษีจะมีการห่อผลิตภัณฑ์อย่างดีเพื่อให้นำกลับออกไปนอกประเทศ แต่กรณีของไทยจะต้องมีการสุ่มตรวจสินค้าที่มีราคาแพง โดยต้องนำสินค้ามาแสดงที่สนามบิน เพื่อป้องกันการเอาไปใช้ในประเทศ”นายเอกนิติกล่าว

สำหรับ สินค้าที่ขอคืนภาษีและต้องมีการนำมาแสดงที่สนามบิน กำหนดให้เป็นสินค้าที่มีราคาสูงๆ เกินหลักหมื่นบาท เช่น นาฬิกา แว่นตา ปากกา เครื่องหนังเป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน