กรมศุลกากรสั่งซื้อเครื่องเอ็กซเรย์ ตรวจยิบหิ้วแบรนด์เนมเลี่ยงภาษี แจ้งเป็นสินค้าราคาต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อหลบภาษีแต่พอตรวจจับจริงเป็นของแบรนด์เนมชิ้นละหลายหมื่นบาทที่จัดส่งเข้ามา ทั้งแว่นตา กระเป๋า รองเท้า เช่น ยี่ห้อชาแนล หลุยส์วิตตอง

หิ้วแบรนด์เนมเลี่ยงภาษี – นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมเตรียมสั่งซื้อเครื่องเอ็กซเรย์สินค้าที่นำเข้ามาด้วยการจัดส่งไปรษณีย์ (อีคอมเมิร์ซ) จากต่างประเทศเพิ่มเติมอีก 2 เครื่อง จากเดิมมี 1 เครื่อง เพื่อมาใช้ตรวจจับสินค้าที่นำเข้ามาโดยละเมิดกฎหมาย โดยเฉพาะสินค้าแบรนด์เนมที่มีการสำแดงราคาเท็จ โดยแจ้งมีราคาต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อเลี่ยงการเสียภาษีขาเข้าจากกรมศุลฯ รวมถึงสินค้าเป็นยาเสพติด ยาไอซ์ ตลอดจนสินค้าต้องห้ามว่าด้วยอนุสัญญาการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส)

“ปัจจุบันยอดสั่งซื้อสินค้าอีคอมเมิร์ซของคนไทยขยายตัวเพิ่มอย่างรวดเร็ว โดยวันหนึ่งมีการสั่งนำเข้ามากกว่า 1 แสนรายการ และก็พบว่ามีความพยายามหลบเลี่ยงภาษีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมากกว่าครึ่งมักแจ้งเป็นสินค้าราคาต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อหลบภาษี แต่พอตรวจจับจริงกลับพบว่าเป็นของแบรนด์เนมชิ้นละหลายหมื่นบาทที่จัดส่งเข้ามา โดยที่พบมาเป็นแว่นตา กระเป๋า รองเท้า เช่น ยี่ห้อชาแนล หลุยส์วิตตอง ก็มีการนำเข้ามาเยอะ ดังนั้น กรมจึงต้องเพิ่มระบบตรวจสอบเพื่อรองรับการใช้สินค้าอีคอมเมิร์ซ”

นอกจากนี้ กรมยังเพิ่มระบบการเปิดตรวจสินค้าอีคอมเมิร์ซ โดยหากพบว่าที่อยู่ใดมีการสั่งซื้อสินค้าเข้ามามากจะเปิดตรวจสินค้าทุกครั้งทันที ซึ่งเพิ่มจากเดิมที่จะยึดข้อมูลจากชื่อคนรับเป็นหลัก เนื่องจากพบว่ามีการหลบเลี่ยงด้วยการเปลี่ยนชื่อคนรับแทน ขณะเดียวกันจะเร่งเชื่อมโยงข้อมูลการตรวจสอบสินค้าอีคอมเมิร์ซตามด่านชายแดนทั่วประเทศ หลังพบมีขบวนการนำเข้าสินค้าแบบทรานซิส หรือนำเข้ามาทางสนามบินและส่งต่อไปประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นค่อยลักลอบนำเข้ามาทางรถยนต์ผ่านด่านชายแดน ซึ่งกรมศุลฯ จะประสานข้อมูลจากสนามบินไปด่านชายแดนเพื่อตามตรวจจับ ซึ่งที่ผ่านมาได้ตรวจจับได้ 2-3 ล้านบาท

ขณะเดียวกันกรมศุลฯ ยังได้พัฒนาระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกเพิ่มในเสียภาษีนำเข้าจากอีคอมเมิร์ซ โดยระยะแรกในเดือนม.ค.ปีหน้าจะเริ่มชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ดที่ส่งมาพร้อมกับใบแจ้งรับสินค้าได้เลย จากนั้นให้นำใบรับพร้อมข้อมูลการจ่ายภาษีมารับของที่ไปรษณีย์ได้ แต่ในระยะต่อไปเดือนเม.ย. 2562 จะมีการพัฒนาระบบให้สามารถตัดรอบรายการที่เสียภาษีแล้วได้ จากนั้นจะนำของมาส่งให้ถึงบ้านได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปจ่ายภาษีหรือไปรับของที่ไปรษณีย์หลักสี่เลย

นายกุลิศกล่าวว่า กรมศุลฯ กำลังพิจารณาออกประกาศกรม เรื่องการยกเลิกการระงับการบังคับคดีการนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายในชั้นศุลกากรกับ 3-4 ประเภท เช่น สินค้าเกษตรบางประเภท สินค้าที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สินค้าต้องห้ามของไซเตส เพื่อลงโทษผู้กระทำผิดซ้ำซากให้ได้รับบทลงโทษที่รุนแรงขึ้น เพราะแต่เดิมหากมีการนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายและถูกจับกุม ผู้ทำผิดก็จะยอมเสียค่าปรับและระงับคดีในชั้นศุลกากรจากนั้นก็กลับมาทำผิดใหม่ ดังนั้นต่อไปถ้ากฎหมายบังคับใช้ เมื่อกระทำผิดเป็นครั้งที่สองจะต้องส่งฟ้องดำเนินคดีทางกฎหมายต่อทันที จะเสียค่าปรับอย่างเดียวไม่ได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะต้องมีการเปิดรับฟังความเห็นจากประชาชนก่อน เพื่อให้เกิดความรอบคอบเนื่องจากสินค้าหลายชนิดเป็นเรื่องอ่อนไหว และมีผลกระทบต่อคนจำนวนมาก เช่น การนำเข้าสินค้าเกษตร หรือสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ถ้าบางครั้งมีการหิ้วมาใช้เองเพียงใบเดียว หากต้องนำไปดำเนินคดีก็จะต้องดูว่าเป็นการลงโทษที่รุนแรงเกินกว่าเหตุหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน