กระทรวงพลังงาน ยันการเปิดประมูลแหล่งเอราวัณ-บงกช โปร่งใสชัดเจน มีการเปิดเผยทุกขั้นตอนต่อสาธารณชนผ่านสื่อ และเว็บไซต์ของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติมาตลอด ขณะที่เชฟรอน ชน ปตท.สผ.

ประมูลเอราวัณ-บงกชโปร่งใส – นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ในวันที่ 25 ก.ย. 2561 ที่กรมฯ กำหนดให้ผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมการประมูลที่ผ่านหลักเกณฑ์ตามขั้นตอนต่างๆ เข้ายื่นแผนการดำเนินงาน งบประมาณการลงทุน ข้อเสนอทางด้านเทคนิค และผลประโยชน์ตอบแทนรัฐ ตามเงื่อนไขหลักสำคัญที่ระบุไว้ ในเงื่อนไขประกวดราคา (ทีโออาร์) เพื่อขอรับการคัดเลือกเป็นผู้ดำเนินการสำรวจ พัฒนาและผลิตก๊าซธรรมชาติทั้ง 2 แปลง ร่วมกับภาครัฐให้เกิดความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

โดยผลสรุปมีผู้ประกอบการมายื่นคำขอประมูลในฐานะผู้ดำเนินงานในแปลง G1/61 (เอราวัณ) จำนวน 2 ราย ได้แก่ 1. บริษัท PTTEP Energy Development Company Limited (บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด) ร่วมกับ บริษัท MP G2 (Thailand) Limited (บริษัท เอ็มพี จี2 (ประเทศไทย) จำกัด) 2. บริษัท Chevron Thailand Holdings Ltd. ร่วมกับ บริษัท Mitsui Oil Exploration Company Ltd. (บริษัท มิตซุยออยล์ เอ็กซ์โปลเรชั่น คัมปานี ลิมิเต็ด)

แปลง G2/61 (บงกช) จำนวน 2 ราย ได้แก่ 1. บริษัท PTTEP Energy Development Company Limited (บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด) 2. บริษัท Chevron Thailand Holdings Ltd. (บริษัท เชฟรอน ไทยแลนด์ โฮลดิ้ง จำกัด) ร่วมกับ บริษัท Mitsui Oil Exploration Company Ltd. (บริษัท มิตซุยออยล์ เอ็กซ์โปลเรชั่น คัมปานี ลิมิเต็ด)

โดยผู้เข้าประมูลยื่นเอกสารจำนวน 4 ซองตามที่กำหนดประกอบด้วย ซองที่ 1 เอกสารด้านคุณสมบัติของผู้ประกอบการปิโตรเลียมตามกฎหมาย ซองที่ 2 เอกสารข้อเสนอด้านหลักการและเงื่อนไขการให้หน่วยงานของรัฐเป็นผู้ร่วมลงทุน ซองที่ 3 เอกสารข้อเสนอด้านเทคนิค ซึ่งประกอบด้วยแผนงานช่วงเตรียมการ แผนงานการสำรวจ และแผนการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม และซองที่ 4 เอกสารข้อเสนอด้านผลประโยชน์ตอบแทนรัฐ และสัดส่วนการจ้างพนักงานไทย ซึ่งหลังจากยื่นซองแล้วจะใช้เวลาเพื่อพิจารณาหาผู้ชนะการประมูล และคาดว่าจะสามารถนำเสนอชื่อผู้ชนะการประมูลไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือนธ.ค. 2561

ทั้งนี้ การดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ อย่างโปร่งใส และมีการเปิดเผยทุกขั้นตอนต่อสาธารณชนผ่านสื่อ และเว็บไซต์ของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติมาโดยตลอด โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นหลักประกันว่าประเทศและประชาชนจะมีก๊าซธรรมชาติจากแหล่งพลังงานในประเทศใช้อย่างต่อเนื่องในราคาที่ไม่แพง

ด้านนายไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า บริษัท เชฟรอนไทยแลนด์โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ผู้ดำเนินการแหล่งเอราวัณในปัจจุบัน ได้ร่วมกับ บริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซโปลเรชั่น คัมปะนี ลิมิเต็ด (MOECO) ยื่นข้อเสนอประมูลขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/61 และ G2/61 (แหล่งเอราวัณและแหล่งบงกช) อย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ ข้อเสนอของเราแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ถึงความรู้ความเข้าใจในสภาพทางธรณีวิทยาของอ่าวไทย การมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและแนวทางปฏิบัติงานที่เป็นเลิศจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก ตลอดจนความสำเร็จในการทำหน้าที่จัดหาพลังงานให้กับประเทศได้อย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

“เราภูมิใจที่ได้รับโอกาสให้เข้าร่วมในการประมูลครั้งนี้ และพร้อมที่จะแสดงให้เห็นว่าเชฟรอนคือพันธมิตรสนับสนุนความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ ที่ควรได้รับความไว้วางใจ ให้ทำหน้าที่ในการพัฒนาแหล่งเอราวัณและบงกชเพื่อประโยชน์ของคนไทยสืบไป”

นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ปตท.สผ. ได้ยื่นประมูลแหล่งสัมปทานที่กำลังจะหมดอายุ ทั้งแหล่งบงกชและเอราวัณ ซึ่งในส่วนของแหล่งบงกชนั้น ปตท.สผ. จะยื่นประมูลเอง โดยผู้ร่วมทุนรายเดิมตัดสินใจไม่เข้าร่วมประมูลด้วย สำหรับแหล่งเอราวัณนั้น ปตท.สผ. เข้าร่วมประมูลกับบริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม (ประเทศไทย) จำกัด เนื่องจากเป็นผู้ร่วมทุนที่มีศักยภาพ และมีการลงทุนในแหล่งสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทยอยู่แล้ว จึงมีความเข้าใจพื้นที่ดังกล่าวเป็นอย่างดี

“เราเชื่อมั่นว่าองค์ความรู้ ประสบการณ์และความชำนาญในการสำรวจ พัฒนาและผลิตก๊าซธรรมชาติในแหล่งบงกชตลอดระยะเวลา 25 ปี ทำให้เรายื่นข้อเสนอในการประมูลที่จะสามารถสร้างความต่อเนื่องในการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยต้นทุนที่แข่งขันได้ และสร้างผลประโยชน์ให้กับประเทศได้มากกว่า เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศในระยะยาว” นายสมพร กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน