กระทรวงพลังงาน-กฟผ. เร่งใช้ปาล์มผสมก๊าซผลิตไฟฟ้า ดูดซับปริมาณล้นตลาดเพิ่มเติม แจงราคาขายปลีกไม่ลงตามตลาดโลก เหตุตุนเงินเข้ากองทุนไว้อุดหนุนราคาในช่วงผันผวน พร้อมดีเดย์อุดหนุนราคาน้ำมันวินมอเตอร์ไซค์ 3 บาท 15 ธ.ค.นี้

ใช้ปาล์มผสมก๊าซผลิตไฟฟ้า – นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงอยู่ระหว่างหารือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการนำน้ำมันปาล์มดิบมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผสมก๊าซธรรมชาติสำหรับผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกงและราชบุรี ทดแทนการใช้ก๊าซธรรมชาติ ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น 20 สตางค์ต่อหน่วย จากที่ใช้ก๊าซธรรมชาติต้นทุนอยู่ที่ 3 บาทต่อหน่วย ใช้น้ำมันเตาต้นทุนอยู่ที่ 6-7 บาทต่อหน่วย รวมต้นทุนค่าใช้จ่าย 1,000 ล้านบาท ซึ่งกฟผ. จะรับผิดชอบ 500 ล้านบาท และงบกลางสนับสนุน 500 ล้านบาท จึงยืนยันไม่กระทบต่ออัตราค่าไฟฟ้าของประชาชนที่ปัจจุบันคิดในอัตรา 3.60 บาทต่อหน่วย โดย กฟผ. ได้เริ่มวางมาตรการปรับปรุงเครื่องจักร ตั้งเป้าหมายดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ 1.6 แสนตันภายใน 3 เดือนหลังจากเริ่มดำเนินการให้เร็วที่สุด

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา มีมติเพิ่มสัดส่วนผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจาก 6.6% เป็น 6.9% โดยขั้นต้นจะบังคับใช้มาตรการเพิ่มสัดส่วนเป็น 6.8% ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. 2561 เป็นต้นไปเพื่อผู้ผลิตไบโอดีเซลและผู้ค้าน้ำมันจะร่วมดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) ได้เพิ่มขึ้นอีก 15,000 ตันต่อปี เป็น 80,000 ตันต่อปี จากที่ตั้งเป้าหมายดูดซับปริมาณให้ได้ 1.3 ล้านตันต่อปี

นอกจากนี้ กรมธุรกิจพลังงานได้รายงานให้ กบง. รับทราบความร่วมมือจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ทดลองใช้น้ำมันดีเซล B20 ให้แล้วเสร็จในระยะเวลา 1 เดือน ตั้งเป้าหมายใช้น้ำมันดีเซล B20 ในปริมาณ 7 ล้านลิตรต่อดือน ส่งผลให้ประมาณการใช้น้ำมันดีเซล B20 ในเดือนธ.ค.จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 20 ล้านลิตรต่อเดือน คาดจะดูดซับปริมาณปาล์มได้เพิ่มขึ้นอีก 6 แสนตันต่อปี จากเป้าหมายตั้งไว้ที่ 15 ล้านลิตรต่อวัน

“เชื่อว่ามาตรการต่างๆ จะช่วยดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบที่ปัจจุบันมีอยู่ในสต๊อก 3.7 แสนตันต่อปี ให้ลดลงอยู่ในระดับที่เหมาะสม 2.5-3.5 แสนตันต่อปีได้ในระยะเวลาอันสั้น จากปัจจุบันปริมาณการผลิตน้ำมันปาล์มดิบในประเทศประมาณ 2.5 ล้านตันต่อปี และสามารถสร้างเสถียรภาพราคาปาล์มสดให้อยู่ที่ระดับ 3.50 บาทต่อกิโลกรัม ซี่งในอนาคตประเมินว่าปริมาณผลผลิตน้ำมันปาล์มดิบจะอยู่ในระดับที่เพียงพอและสมดุลกับความต้องการใช้ในประเทศ”

นายศิริ กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ลดลง แต่ราคาขายปลีกในประเทศไม่ได้ลดลงในช่วงนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินในประเทศลดลงไปมากแล้ว 5 ครั้ง เป็นเงิน 2.10 บาทต่อลิตร ขณะนี้จึงเรียกเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กองทุนมีเงินสำรองในส่วนที่ใช้ไปแล้วโดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีก และเตรียมความพร้อมใช้อุดหนุนราคาขายปลีกในประเทศได้ในช่วงที่ราคาน้ำมันผันผวนอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการใช้ทั่วโลก

ทั้งนี้ ปัจจุบันสถานะของกองทุนมีเงิน 23,500 ล้านบาท มีเงินไหลเข้า 1,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งได้นำไปชดเชยราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ประมาณ 500 ล้านบาทต่อเดือน ถือว่าอยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการดูเสถียรภาพราคาขายปลีกในภาวะที่ผันผวน ซึ่งหากแนวโน้มราคาน้ำมันดิบตลาดโลกยังลดลงต่อเนื่อง ก็มีโอกาสที่ราคาขายปลีกในประเทศจะปรับลดลงได้ แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐ ซึ่งมองว่ายังมีความอ่อนไหวระหว่างประเทศค่อนข้างสูง

สำหรับความคืบหน้ามาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันให้ถูกกว่าราคาขายปลีก 3 บาทต่อลิตรแก่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก และเป็นผู้มีรายได้น้อยตามหลักเกณฑ์ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ 15 ธ.ค.นี้ โดยมีวินมอไซค์ผ่านเกณฑ์ได้รับสิทธิจำนวน 40,000 ราย อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 8,500 ราย ต่างจังหวัด 31,500 ราย

ขณะเดียวกัน กระทรวงพลังงานยังออกประกาศยกเลิกการขอสำเนาบัตราประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านจากประชาชนที่มาติดต่อราชการ โดยให้กรมธุรกิจพลังงานนำร่องให้บริการประชาชนผู้มาขอรับบริการเกี่ยวกับการขออนุมัติ อนุญาต ออกใบอนุญาต รับจดทะเบียน รับจดแจ้ง หรือรับแจ้ง เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระแก่ประชาชนในการไม่เรียกสำเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้จากประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน