จากกรณีบริษัท ทีอาร์เอ แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของกลุ่ม สิริวัฒนภักดีและสวนอุตสาหกรรมโรจนะ เป็นผู้ชนะประมูลที่ดินของ บมจ.เอคิว เอสเตท หรือกฤษดามหานคร บริเวณบางนา-ตราดเนื้อที่กว่า 4,300 ไร่ ในราคา 8,914.07 ล้านบาท โดยได้วางมัดจำที่ดินไปแล้ว 448.5 ล้าน และจะดำเนินการชำระส่วนที่เหลือ 8,465 ล้านภายในสิ้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมานั้น

รายงานข่าวแจ้งว่าครอบครัวกฤษดาธานนท์ ส่งทนายเข้าร้องต่อศาลให้ระงับการขายทอดตลาดที่ดินผืนดังกล่าว เพราะราคาประมูลถูกเกินไป ทั้งที่ที่ดินตั้งอยู่ในทำเลทองย่านบางนาตราด-สุวรรณภูมิ และยังเป็นประตูสู่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) แต่กลับตั้งราคาขายเอาไว้เฉลี่ยตารางวาละ 4,000 – 5,000 บาทเท่านั้น ต่ำกว่าราคาประเมินเมื่อครั้งที่กลุ่มกฤษดามหานครนำไปค้ำประกันเงินกู้ธนาคารกรุงไทยในช่วงปี2543-2544 ที่ประเมินราคาไว้ไม่ต่ำกว่าตารางวาละ 12,000 บาท

แหล่งข่าว กล่าวว่านอกจากนี้ ยังพบว่าการตั้งราคาขายทอดตลาดที่อ้างว่าเป็นการประเมินราคาที่ดินรายแปลงอย่างอิสระ ตามกฎหมายใหม่ของกรมธนารักษ์ทำให้ประเมินที่ดินแปลงที่ไม่ติดถนนเป็นที่ตาบอด และประเมินราคาไว้ต่ำเพียงเพียงวาละ 3,000-4,000 บาทเท่านั้น ทั้งๆ ที่ ที่ดินทั้ง 215 แปลงที่ประกาศขายทอดตลาดครั้งนี้เป็นแปลงต่อเนื่องกัน และมีเจ้าของผู้ถือกรรมสิทธิ์รายเดีวกัน ซึ่งตามหลักเกณฑ์คู่มือการประเมินราคาที่ดินของกรมธนารักษ์ ปี 2552ข้อ 7.2 นั้นจะต้องประเมินเป็นแปลงเดียวกันทั้งโซน

นอกจากนี้ที่ดินที่นั้นยังมีคดีอยู่ในศาลต่างๆ โดยที่ดินของบริษัทโกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียลพาร์ค จำกัด ติดถนนบางนา-ตราด จำนวน 2,557 ไร่ มีคดีความอยู่กับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและศาลแพ่ง และที่ดินของบริษัท เคแอนด์วีอาร์เอส การ์เด้นโฮม จำนวน 1,924 ไร่ มีคดีความอยู่กับศาลล้มละลายกลาง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน