สรรพากรรุกหนักใช้ระบบดิจิทัลช่วยรีดรายได้เข้าเป้า 2 ล้านล้านบาท ชี้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนเหมือนปีก่อน
ใช้ระบบดิจิทัลช่วยรีดรายได้ – นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยหลังประชุมผู้บริหารกระทรวงการคลังว่า ได้มีการรายงานแผนจัดเก็บรายได้และรายจ่ายของกรมฯ ให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง รับทราบ โดยการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรในเดือนแรกของปีงบประมาณ 2562 ทำได้เกินเป้าหมาย 4.7% หลังจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มทำได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทั้งในส่วนการจัดเก็บในประเทศ และภาษีจากการนำเข้า นอกจากนี้ ยังมีการยืนยันเป้าหมายการจัดเก็บภาษีให้รมว.คลังรับทราบว่า ตลอดปีนี้จะเก็บให้ได้ 2 ล้านล้านบาท
สำหรับแผนการจัดเก็บภาษีในปีนี้จะเน้นการนำระบบดิจิทัลมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บภาษี และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนเหมือนปีก่อน โดยมีการเชื่อมโยงข้อมูลงบการเงินกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้ใช้ข้อมูลงบการเงินเดียวกัน รวมถึงการข้อมูลเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษี เช่น การร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และสมาคมประกันวินาศภัย ในการส่งข้อมูลการทำประกันสุขภาพ เพื่อใช้ในการลดหย่อนภาษีเข้ามาให้กรมฯใช้โดยตรง ที่กำหนดเบี้ยไม่เกิน 15,000 บาท
นอกจากนี้ ในระยะต่อไปจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับสมาคมประกันชีวิตไทย ในการส่งข้อมูลการทำประกันชีวิตที่ใช้ในการลดหย่อนภาษี รวมถึงข้อมูลการเป็นสมาชิกผ่านกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ตลอดจนการนำระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-โดเนชั่น ที่มีการใช้ข้อมูลบริจาคเงินเข้าวัด ศาสนสถาน ส่งตรงจากบัญชีธนาคารเข้ามากับกรมฯ เพื่อใช้ในการลดหย่อนภาษี โดยไม่ต้องเก็บหรือขอใบอนุโมทนามาใช้เป็นหลักฐานอีก
“ปีนี้กรมฯ พยายามนำระบบดิจิทัลเข้ามาใช้เพิ่มเติม เพื่อเชื่อมโยงการบริการที่เกี่ยวข้องกับประชาชนทุกจุดเป็นแบบดิจิทัล เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวก ซึ่งที่ผ่านมาเป็นกรมแรก ที่ได้ยกเลิกการใช้สำเนาบัตรประชาชนในการติดต่อทำธุรกรรมที่กรมฯ ไปแล้ว และหลังจากนี้หลักฐานอื่นๆ ก็จะทยอยใช้ข้อมูลดิจิทัลเพิ่มเข้ามา เช่น เบี้ยประกันสุขภาพ หรืองบการเงินก็ไม่ต้องสแกนแล้วส่งตามมาให้ทีหลังเหมือนก่อน”
นายเอกนิติกล่าวว่า กรณีโครงการลดหน่อยภาษีในการลงทุนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ที่จะครบกำหนดสิ้นปี 2562 ยังคงเป็นไปตามที่กำหนดไว้ และยังไม่ได้รับข้อเสนอจากสภาธุรกิจตลาดทุนเข้ามาเพิ่มเติม ส่วนกรณีจะมีการออกโครงการสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับการลงทุนอื่นเป็นการทดแทนหรือไม่นั้น ยังไม่มีการพิจารณา และยังไม่มีข้อเสนอจากสภาธุรกิจตลาดทุนเข้ามาเพิ่มเติมแต่อย่างใด
