ครม. ไฟเขียวททท. ร่วมกับเอกชน-ห้าง-ร้าน จัดแกรนด์เซลล์ 2 เดือนเต็ม เริ่ม 15 พ.ย.61 – 15 ม.ค.62 นักท่องเที่ยวต่างชาติโชว์พาสปอร์ตลดแบบออนท็อปเพิ่ม

จัดแกรนด์เซลล์ดึงนักท่องเที่ยว– นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวไทยในช่วงต้นฤดูกาลท่องเที่ยว หลังจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนระหว่างเดือนก.ค.-ต.ค. ลดลง 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหลายสาเหตุ คือ อุบัติเหตุเรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต ไข้เลือดออก นักท่องเที่ยวจีนถูกทำร้าย และผลกระทบเรื่องสงครามการค้า โดยมาตรการที่ออกมาจะเป็นระยะสั้นๆ 2 เดือนคือระหว่าง 15 พ.ย. 2561-15 ม.ค. 2562

ด้านนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบมาตรการกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวไทยในช่วงต้นฤดูกาลท่องเที่ยว ด้วยการจัดโครงการอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ เซลล์ พาสปอร์ต พริวิเลจ เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 2561 – 15 ม.ค. 2562 โดยร่วมกับพันธมิตร ทั้งผู้ผลิตสินค้า เจ้าของแบรนด์สินค้าชั้นนำ ศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ และบัตรเครดิต จัดโปรโมชั่นพิเศษกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ปีนี้ยังกำหนดให้เพิ่มส่วนลดแบบออนท็อป หรือให้สิทธิพิเศษจากปกติที่ศูนย์การค้าให้กับนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่นักท่องเที่ยวต้องโชว์พาสปอร์ตในช่วงที่จัดโครงการ เพื่อให้ได้รับสิทธิพิเศษด้วย

พร้อมกันนี้ยังส่งเสริมการจัดโปรโมชั่นลดราคา สำหรับสินค้าที่นักท่องเที่ยวนิยม เช่น เสื้อผ้า เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า และแบรนด์ต่างๆ อีกทั้งยังส่งเสริมการจัดกิจกรรมช็อปปิ้งในศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้าที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และใช้พาสปอร์ตพริวิเลจ ณ ร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมกิจกรรม

ขณะเดียวกันการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยังร่วมกับกระทรวงการคลังขอเปิดให้บริการพื้นที่พิเศษเพิ่มเติมให้กับนักท่องเที่ยวในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต รีฟันด์) ในแหล่งท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า และเพิ่มช่องทางพิเศษ ที่สนามบินนานาชาติ ช่วยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่ซื้อสินค้า จิวเวอรี่ และอัญมณี ได้คืนภาษีได้รวดเร็วขึ้น

นอกจากนี้ ครม.ยังทบทวนมาตรการด้านวีซ่า 3 ชนิด เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวระยะสั้นควบคู่ไปกับการจัดทำโครงการอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์เซลล์ และการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าหน้าด่าน โดยทดลองจัดทำดับเบิล เอ็นทรี วีซ่า หรือการทำวีซ่าครั้งเดียวให้กับนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามายังประเทศไทยได้ 2 ครั้ง โดยจ่ายค่าธรรมเนียมในอัตราเดิมคนละ 1,000 บาท ต่อมาเป็นการจัดทำ รี-เอ็นทรี วีซ่า หรือการอนุญาตให้นักท่องเเที่ยวที่ทำวีซ่าไทยแบบอนุญาตครั้งเดียว สามารถเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้าน และกลับเข้ามาในประเทศไทยได้ โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตใหม่อีกครั้ง

ส่วนวีซ่าอีกชนิดคือวีซ่าทางบก หรือการอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ได้รับสิทธิยกเว้นการลงตราเพื่อการท่องเที่ยวเป็นเวลา 30 วัน เดินทางเข้ามาในประเทศไทยผ่านทางด่านพรมแดนที่เป็นเขตติดต่อกับพรมแดนทางบก เดิมกำหนดไว้ให้เข้ามาได้ปีละไม่เกิน 2 ครั้ง ก็ให้ยกเว้นเป็นไม่จำกัดจำนวน ซึ่งการปรับปรุงการให้วีซ่าทั้ง 3 ชนิดนั้น จะทดลองใช้เป็นเวลา 2 เดือนก่อน ส่วนระยะเวลาการเริ่มต้น กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะกลับไปดูช่วงเวลาที่เหมาะสม และรายละเอียดการดำเนินงานอีกครั้ง

“มาตรการที่กระตุ้นการท่องเที่ยว มีจัดงานแกรนด์เซลล์ ซึ่งเป็นความร่วมมือของภาคเอกชนที่จะเข้ามาร่วมลดราคาให้ชาวต่างชาติ 2 เดือน ได้ใช้จ่ายกันมากขึ้น ส่วนขอความเห็นชอบในหลักการเอาไว้ โดยทำรี-เอ็นทรีวีซ่า ช่วยให้นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวเมืองรองชายแดนแล้วอยากออกนอก แต่เดิมทำไม่ได้เพราะเป็นซิงเกิลวีซ่า เข้า-ออกได้ครั้งเดียว ส่วนดับเบิลวีซ่า ก็ลองทำ 2 เดือน โดยกระทรวงการต่างประทศจะไปดูเวลาที่จะออกมาอีกครั้ง ข้อดีคือ ทำให้กลุ่มประชุมไมซ์ กลุ่มจัดประชุม หาหมอ ทำฟัน หรือมาร่วมเทศกาลต่างๆ จะได้เดินทางมาสะดวกขึ้น ส่วนสุดท้ายวีซ่าทางบกจะทำให้เหมือนกับทางอากาศที่เดินทางได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง”

อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวนั้น เบื้องต้นจะช่วยรักษาจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางมายังประเทศไทยได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ 38 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศประมาณ 2 ล้านล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน