พาณิชย์ เผยส่งออกต.ค. กลับมาขยายตัว 8.7% ยอมรับปี 2562 ต้องติดตามการเมืองในประเทศ เศรษฐกิจและการค้าโลกที่เริ่มมีแนวโน้มชะลอตัว สนค. เตรียมจัดตั้งทีมงานเฉพาะกิจเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ

ส่งออกต.ค. กลับมาขยายตัว – น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยประจำเดือนต.ค. 2561 กลับมาขยายตัวที่ 8.7% หรือคิดเป็นมูลค่า 21,758 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการส่งออกขยายตัวเกือบทุกตลาด โดยเฉพาะตลาดในภูมิภาคเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น อินเดีย และ CLMV ที่ขยายตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตลาดสหรัฐฯ และจีนที่กลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวเล็กน้อยใน เดือนก่อนหน้า การส่งออกสินค้ากลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวที่ 12.2% โดยสินค้าเกษตรสำคัญ ขยายตัวเกือบทุกรายการ สินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ น้ำตาลข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ไก่สด แช่แข็งและแปรรูป และ ผัก ผลไม้สด แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป

พิมพ์ชนก วอนขอพร

การส่งออกสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรม ขยายตัว 6.8% สินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ ) และเครื่องโทรสาร โทรศัพท์ และ ส่วนประกอบ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดว่าการส่งออกในปี 2561 จะยังขยายตัวได้ที่8 %ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยได้เตรียมกลยุทธ์และแนวทางการส่งเสริมการส่งออก การค้าและการลงทุนของไทยในช่วงที่เหลือของปี 2561 และ ปี 2562 อีกทั้งยังเชื่อมั่นว่า สินค้าส่งออกของไทยที่มีความหลากหลายและความสามารถทางการแข่งขันในระดับสูง จะเป็น โอกาสในการเร่งผลักดันการส่งออก และสนับสนุนให้การส่งออกไทยมีความยืดหยุ่นและรับมือความผันผวนจากปัจจัยเสี่ยง ภายนอกได้ดีขึ้น รวมทั้งผลักดันให้การส่งออกไทยขยายตัวได้ตามเป้าหมาย สร้างความเข้มแข็งและรายได้ไปจนถึงเศรษฐกิจฐานราก

ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 22,038 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 11.2% ส่งผลให้การค้าขาดดุล 280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวม 10 เดือนของปี 2561 การส่งออก มีมูลค่า 211,488 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.2% การนำเข้ามีมูลค่า 208,929 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.8% และการค้าเกินดุล 2,559 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์พร้อมผลักดันการส่งออกในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2561 เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการขยายตัวของการส่งออกในประเทศกลุ่มอาเซียน และ CLMV มากขึ้น และอาจทดแทนการส่งออกที่หดตัวลงในภูมิภาคอื่นๆได้ ซึ่งได้ดำเนินการขยายความร่วมมือทางการค้าในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง และพยายามเพิ่มบทบาททางการค้าของประเทศไทยในฐานะที่ประเทศไทยจะเป็นประธานอาเซียนในปี 2562 เพื่อรองรับการเติบโตในภูมิภาคต่อไป

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน กระทบต่อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ที่ส่งออกได้น้อยลง ส่วนการส่งออกสินค้าประเภทเคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติกยังขยายตัวได้ดี ซึ่ง สนค. จะเดินหน้าผลักดันการส่งออกต่อไป

สำหรับทิศทางการส่งออกในปี 2562 ยอมรับว่ายังต้องติดตามการเมืองในประเทศ เศรษฐกิจและการค้าโลกที่เริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวในปีหน้า ทั้งนี้ สนค. จะจัดตั้งทีมงานเฉพาะกิจเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ และรองรับความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกต่อไปด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน