นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยภาคใต้ ว่า หน่วยงานในพื้นที่ของกระทรวงอุตสาหกรรมได้สำรวจความเสียหาย โดยล่าสุด ณ วันที่ 16 ม.ค.2560 มีโรงงานที่ได้รับความเสียหายจำนวน 81 ราย เหมืองแร่ 2 ราย ความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 43 ล้านบาท

ทั้งนี้ กระทรวงฯ จัดเตรียมแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะสั้นกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้เปิดสายด่วน 1564 เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำแก่โรงงานที่ประสบอุทกภัยเพื่อถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติความปลอดภัยในโรงงาน 4 เรื่องหลัก ได้แก่ มาตรการจัดการสารเคมี มาตรการจัดการกากอุตสาหกรรม มาตรการป้องกันอุปกรณ์เครื่องจักร และมาตรการป้องกันระบบไฟฟ้า ตลอดจนการยกเว้นค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ค่าธรรมเนียมรายปีให้กับโรงงานจำพวกที่ 2 และ 3 ในพื้นที่ภาคใต้

สำหรับแผนระยะยาวกระทรวงฯ เตรียม 3 โครงการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้แก่ โครงการแปลงเครื่องจักรเป็นทุนสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งจะรับบริการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรเพื่อแปลงเครื่องจักรเป็นทุน ตั้งเป้าหมายไม่น้อยกว่า 500 ราย โดยจะอำนวยความสะดวกในการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรผ่านช่องทางพิเศษ

โครงการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะให้บริการคำปรึกษา แนะนำเชิงลึกแก่ผู้ประกอบการในการลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักร ตั้งเป้าหมาย 1,000 ราย โดยพร้อมประสานงานกับสถาบันการเงินให้ด้วย และโครงการไทยแลนด์ สปริง อัพ ก้าวกระโดดประเทศไทย ยกระดับเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย ลดการใช้พลังงาน และเพิ่มมูลค่ากากอุตสาหกรรมให้กับเอสเอ็มอีหลังน้ำลด

ในส่วนมาตรการที่ทางธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เตรียมไว้เพื่อเยียวยาธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย 2 มาตรการ คือ การพักชำระหนี้เป็นระยะเวลา 6 เดือน สำหรับลูกค้าของ ธพว. โดยสามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่สาขาใกล้บ้าน และการให้วงเงินสินเชื่อฉุกเฉินเพื่อฟื้นฟูกิจการ วงเงินต่อรายสูงสุดไม่เกิน 5 แสนบาท ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 5 ปี โดยปลอดชำระคืนเงินต้นในช่วง 1 ปีแรก อัตราดอกเบี้ยไม่เกินลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี เป็นเงินกู้แบบมีระยะเวลา (เอ็มแอลอาร์) ตลอดอายุสัญญา เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในการฟื้นฟู ซ่อมแซม ทำความสะอาดสถานประกอบการ หรือลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักร สำหรับลูกค้าของธนาคารใน 12 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดพัทลุง นราธิวาส ยะลา สงขลา ปัตตานี ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร กระบี่ ระนอง และประจวบคีรีขันธ์

นายสมชาย กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ยังร่วมกับผู้ประกอบการภาคเอกชน จำนวน 43 ราย ร่วมบริจาคเงินให้กับโครงการ “ประชารัฐร่วมใจ ช่วยอุทกภัยภาคใต้” เข้า กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย จำนวน 27 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน