นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2561 ซึ่งสำนักงบประมาณได้หารือร่วมกับกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสศช. ได้มีการพิจารณากรอบงบประมาณร่วมกันรวมทั้งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปี 2561 จะขยายตัวในกรอบ 3.3 – 4.3% และอัตราเงินเฟ้อในช่วง 1.5- 2.5% จึงได้กำหนดกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 มีวงเงินรวมทั้งสิ้น 2.9 ล้านล้านบาท ลดลงจากงบประมาณในปี 2560 ประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท หรือลดลง 0.8%

ส่วนการประมาณการรายได้ภาครัฐอยู่ที่ 2.45 ล้านล้านบาท และขาดดุลงบประมาณ 4.5 แสนล้านบาท แบ่งเป็น ด้านต่างๆประกอบไปด้วย 1.รายจ่ายประจำ 2.146 ล้านล้านบาท คิดเป็น 75% ของวงเงินงบประมาณทั้งหมด 2.รายจ่ายเพื่อลงทุน 6.67 แสนล้านบาท คิดเป็น 23% ของวงเงินงบประมาณ และ 3.รายจ่ายเพื่อชำระคืนต้นเงินกู้ 8.7 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 3%ของวงเงินงบประมาณ ส่วนรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลังในปี 2561 ยังไม่มีรายการที่เสนอตั้งงบประมาณ

“การจัดสรรงบประมาณในปี 2561 ถือเป็นปีแรกที่มีการจัดสรรงบประมาณด้านการลงทุนของภาครัฐสูงถึง 23% เพื่อให้การลงทุนภาครัฐมีความต่อเนื่องและเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ควบคู่กับการลงทุนภาคเอกชนที่ สศช.คาดว่าจะมีการลงทุนขยายตัวประมาณ2.8% หลังจากที่การลงทุนเอกชนฟื้นตัวมา 0.6% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2559 ส่วนการตั้งงบประมาณขาดดุลประมาณ 4.5 แสนล้านบาท ก็เป็นงบประมาณที่พอเพียงที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งในปี 2561 โดยมีการจัดสรรงบประมาณตามยุทธศาสตร์ชาติและการจัดสรรงบประมาณสำหรับจังหวัดและกลุ่มจังหวัด รวมทั้งจัดสรรงบประมาณให้ท้องถิ่น 7.4 แสนล้านบาทเพื่อส่งเสริมการกระจายอำนาจท้องถิ่น” นายกอบศักดิ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน