‘อภิศักดิ์’แจงเศรษฐกิจปีหน้าฟุบ แม้มีการเลือกตั้งก็ตาม พิษจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ส่งผลกระทบทั่วโลก ดอกเบี้ยมะกันปรับขึ้นแน่หวังดึง เงินกลับประเทศ ดึงไทยปรับตามปี 62 รมว.คลังชี้ วัฎจักรเศรษฐกิจโลกผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว แม้การท่องเที่ยวจากคนจีน ก็ลดลงจากเศรษฐกิจจีน ไม่ดี

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยในการปาฐกถาพิเศษ ทิศทางเศรษฐกิจไทย ในปีการเลือกตั้ง 2562 จัดโดย สมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรม ศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่า แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยช่วงจากนี้จะไม่ดีเหมือนครึ่งปีแรกที่โต 4.8% โดยไตรมาส 4 ปีนี้ จะชะลอตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ที่ขยายตัวได้ 3.3% เช่นเดียวกันเศรษฐกิจปี 2562 ที่มีการเลือกตั้งก็น่าจะโตลดลงจากปีนี้ แต่น่าจะขยาย ตัวได้มากกว่า 4%

ทั้งนี้ สาเหตุทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัว มาจากผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ที่สะเทือนต่อเศรษฐกิจโลก และกระทบต่อการส่งออกของ ไทยที่ต้องอิงกับตลาดโลกไปด้วย ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ซึ่งการที่ไทยมีปัญหาเรือล่มก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่หลักๆก็มาจาก เศรษฐกิจจีนไม่ดี ทำให้คนจีนเที่ยวนอกประเทศลดลงซึ่งเป็นเหมือนกันทั้งโลก นอกจากนี้ปีหน้ายังต้องเผชิญความเสี่ยงจากดอกเบี้ยในประเทศที่ จะปรับเพิ่มขึ้นแน่นอน ดังนั้นสิ่งที่จะนำเศรษฐกิจไปได้คือเราจะต้องพึ่งพาตัวเอง เอกชนที่เคยลงทุนนอกประเทศ ควรกลับมาลงทุนในไทยเพื่อ ทำให้ไทยเดินหน้าได้

สำหรับการที่รัฐบาลประกาศเลือกตั้งปีหน้า น่าจะทำให้คนในประเทศลดความกังวลใจ และก็ทำให้ผู้ลงทุนเห็นได้ชัดว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่ง คนส่วนใหญ่มีความคิดว่าเมื่อมีการเลือกตั้งน่าจะทำให้ทุกอย่างขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี ทำให้นักลงทุนต่างประเทศมาร่วมลงทุนกับไทยมากขึ้น แต่ ยังมีข้อน่าเป็นห่วง เมื่อประกาศให้มีการเลือกตั้งแล้ว สิ่งที่ต้องระมัดระวังก็คือ จะต้องทำให้ระบบเศรษฐกิจ และประเทศเดินไปด้วยความสงบและ เรียบร้อย ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่นักลงทุนเป็นห่วง จากการที่ได้พบนักลงทุนต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา

นายอภิศักดิ์กล่าวต่อว่า ปัจจัยเสี่ยงในปี 2562 ยังเป็นปัญหาสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ที่จะยืดเยื้อยาวนานเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจแต่ เป็นการชิงดีชิงเด่นกันของมหาอำนาจ ซึ่งแม้ล่าสุดจะสหรัฐ-จีนจะพักรบเลื่อนการขึ้นภาษีการนำเข้าจาก 10% เป็น 25% ไปอีก 90 วัน แต่ ปัญหาก็ยังไม่จบแน่นอน และคาดว่าจะส่งผลกระทบทั่วโลกมากขึ้นในปีหน้า ซึ่งส่วนหนึ่งถือว่าเป็นวัฎจักรเศรษฐกิจโลกที่จะขึ้นลงทุก 10 ปี โดย ขณะนี้น่าจะผ่านจุดขาขึ้นสูงสุดไปแล้ว

ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงอีกด้านที่ต้องติดตามและหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ ซึ่งจะดึงเงินกลับเข้าประเทศ ดังนั้น สิ่งที่จะตามมาคือเงิน ไหลกลับสหรัฐก็ทำให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินโลก แต่สำหรับประเทศไทยนั้น ยืนยันว่า ปัจจุบัน เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ ทุนสำรองที่ อยู่ในระดับสูง ประกอบกับเงินทุนยังคงไหลเข้ามา จึงทำให้ไทยได้รับผลกระทบน้อยกว่าประเทศอื่น แต่ก็จะทำให้ดอกเบี้ยในประเทศต้องปรับขึ้น แน่นอนในปี 2562

ส่วนเรื่องการบริโภคภายในประเทศที่คนค้าบอกขายไม่ดี แต่เมื่อคลังไปดูตัวเลขการบริโภคก็พบว่าโตอยู่ แต่วิธีการซื้อของคนเปลี่ยนไปอยู่บน โลกออนไลน์มากขึ้น เช่น เมื่อก่อนการส่งสินค้าตก 70,000 ชิ้นต่อวัน แต่ตอนนี้เพิ่มเป็น 1.6 ล้านชิ้น ดังนั้นคนค้าขายจำเป็นต้องปรับตัวให้ทัน กับกระแสโลกที่เปลี่ยนไปด้วย

“มีคนมองว่าสงครามการค้าที่เกิดขึ้นจะดีต่อไทยมากกว่าหรือไม่ ต้องบอกว่าหากเศรษฐกิจโลกชะลอ การส่งออกของคู่ค้าชะลอเราเองก็ถูกกระทบ ส่วนเวียดนามที่ส่งออกดีต่อได้ หากวิเคราะห์ก็พบว่า สิ่งที่เราผลิต อาจไม่ได้ประสิทธิภาพสูงเท่ากับคนอื่น หรือ คนอื่นราคาถูกกว่า ดังนั้นสิ่งที่ภาค รัฐพยายามเร่งผลักดันในเวลานี้ คือ การสร้างอุตสาหกรรมใหม่ๆเข้ามา โดยเฉพาะการขยายการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการ แข่งขันในอนาคต”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน