ขึ้นค่ารถเมล์ ร้อนถึงทีมเศรษฐกิจ เล็งหาแนวทางช่วยเหลือ ไม่อยากให้ประชาชนรู้สึกว่าได้รับความเดือดร้อนจากการปรับค่าโดยสาร
ทีมเศรษฐกิจเต้นหาทางอุ้มชาวบ้าน – นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยกรณีภาคเอกชนและนักวิชาการเสนอให้รัฐบาลออกมาทบทวนช่วงเวลาการปรับขึ้นค่ารถโดยสารธารณะและรวมร่วมบริการประมาณ 10% ตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2562 ว่า แม้การศึกษาผลกระทบของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ถึงการปรับขึ้นค่ารถเมล์และรถร่วมบริการไม่มีผลโดยตรง และกระทบต่อเงินเฟ้อเล็กน้อยเพียง 0.001% แต่กังวลว่าจะมีผลทางจิตวิทยาต่อกำลังซื้อจากต้นทุนการเดินทางเพิ่มขึ้น ก็หมายความว่าจะมีผลกระทบบ้างสำหรับผู้มีรายได้น้อยและประชาชนทั่วไปที่เดินทางด้วยรถโดยสาร ดังนั้น ทีมเศรษฐกิจเตรียมหารือถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและข้อเสนอถึงแนวทางลดความเดือดร้อน ที่ขณะนี้กระทรวงด้านเศรษฐกิจกำลังสั่งให้ศึกษาผลกระทบว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะไม่อยากให้ประชาชนรู้สึกว่าได้รับความเดือดร้อนจากการปรับค่าโดยสาร
“เมื่อมีมติแล้ว การจะเลื่อนเวลาบังคับใช้อาจทำได้ยาก แต่จะนำข้อมูลที่ได้ให้ศึกษาว่าแต่ละหน่วยงาน ทั้งกระทรวงพาณิชย์ ที่ดูแลเรื่องปากท้อง กับกระทรวงด้านเศรษฐกิจจะมีมุมมองอย่างไร หากพบว่าประชาชนจะได้รับความเดือดร้อน อาจต้องมีแนวทางออกมาดูแลต่อไป”นายสนธิรัตน์ กล่าว
นายสนธิรัตน์ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการรับจดสิทธิบัตรจากสารสกัดกัญชาที่องค์กรภาคสังคมต้องการให้ยกเลิกนั้นว่า ฝ่ายกฎหมายกำลังตรวจสอบคำขอยื่นจดทะเบียนในแต่ละคำขอว่าเป็นอย่างไร อะไรที่ขัดต่อกฎหมายไทยหรือกฎระเบียบก็ต้องทบทวน ซึ่งเป็นเรื่องของกฎหมาย จึงต้องใช้เวลาตรวจสอบ อาจยังระบุไม่ได้ว่าจะได้สรุปเมื่อไหร่ ซึ่งตนได้กำชับปลัดกระทรวงพาณิชย์และกรมทรัพย์สินทางปัญญาให้เร่งดำเนินการให้ได้ผลสรุปเร็วที่สุด
