ปตท. จับมือพันธมิตร เตรียมโรดโชว์ ดึงเอกชนระดับโลกลงทุนนวัตกรรมในอีอีซีไอ – หวังการเมืองสดใสสร้างความมั่นใจนักลงทุน
ปตท. จับมือพันธมิตร – นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวบรรยายในงานสัมมนาเรื่อง “EECi by ปตท.for Thailand 4.0” จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ว่า ปตท. เตรียมร่วมมือกับบริษัทในเครือ อาทิ บริษัทพันธมิตรด้านพลังงาน บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกสิกรไทย เป็นต้น ดำเนินกิจกรรมเชิญชวนการลงทุน (โรดโชว์) ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้นวัตกรรมขั้นสูง
โดยไตรมาส 1-2 ของปี 2562 มีกำหนดการจัดสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ และกำหนดแผนดำเนินงานต่อเนื่องเป็นแผนระยะยาวถึงปี 2568 เพื่อเชิญชวนให้เอกชนระดับโลกเข้าร่วมลงทุนในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซีไอ) บนพื้นที่ทั้งหมด 3,500 ไร่ วางเป้าหมายพัฒนาพื้นที่เฟส 1 พื้นที่ 400 ไร่
“สิ่งสำคัญที่จะทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นคือ บรรยากาศการลงทุน ซึ่งปีหน้าที่เราจะจัดโรดโชว์ก็ต้องดูการเมืองประกอบด้วย เพราะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของนักลงทุน ตั้งเป้าหมายชักชวนให้พันธมิตรทั้งในไทยและต่างประเทศเข้ามาลงทุนทั้งจาก สหรัฐ ยุโรป จีน เกาหลี โดยโฟกัสบริษัทที่เราเป็นลูกค้าหรือทั้งที่เป็นลูกค้าเราก่อน ตั้งเป้าหมายเบื้องต้นที่ประมาณ 10-20 ราย เตรียมพาลงพื้นที่จริงเพื่อให้เห็นศักยภาพ กระตุ้นให้เกิดเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ สร้างนักวิจัยชาวไทยมากขึ้นสอดคล้องกับแนวทางพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล ช่วยลดการขาดดุลเรื่องลิขสิทธิ์งานวิจัยที่ปัจจุบันไทยต้องซื้อลิขสิทธิ์จากต่างชาติจำนวนมาก”
สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันปี 2562 ปตท. ยังสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกยังมีความผันผวน เนื่องจากภูมิรัฐศาสตร์ในการผลิต ประกอบกับคาดว่ายังมีกองทุนเก็งกำไรตลาดน้ำมัน ทำให้ราคาเฉลี่ยช่วงนี้เคลื่อนไหวอยู่ที่ 50-65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนกรณีที่บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ชนะการประมูลสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในแหล่งเอราวัณและบงกชนั้น เชื่อว่าอนาคตต้นทุนประกอบการของเอกชนที่ใช้ก๊าซจะถูกลง
สำหรับร่างแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี) ฉบับใหม่ที่ระบุว่าจะมีการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้ามากขึ้นนั้นสอดคล้องกับทิศทางของโลก เพราะก๊าซเป็นเชื้อเพลิงที่ค่อนข้างเสถียร โดยปัจจุบันรัฐมีการลงทุนคลังเก็บก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) รองรับความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ส่วนพลังงานทดแทนนั้นยังต้องพัฒนาเทคโนโลยีในการกักเก็บพลังงานให้รองรับการขยายตัวในอนาคต จากขณะนี้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้
ส่วนความคืบหน้าการร่วมทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินนั้น ปตท.ไม่ได้เข้าร่วมเป็นผู้เข้าประมูลหลัก คงต้องรอดูความชัดเจนจากรัฐบาลก่อน
