‘สมคิด’ ยันปีนี้เลือกตั้งแน่ วอนนักการเมืองอย่าทะเลาะกัน ด่ากัน - ลุ้นเศรษฐกิจปีหมูทอง

‘สมคิด’ ยันปีนี้มีการเลือกตั้งแน่นอน วอนนักการเมืองอย่าทะเลาะกัน ด่ากัน – ลุ้นเศรษฐกิจปีหมูทอง

‘สมคิด’ ยันปีนี้เลือกตั้งแน่ – นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในงาน Krungthai NEXT Thailand ECONOMIC CHALLENGES 2019 ว่า ปีนี้ยืนยันประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งแน่นอน ซึ่งจากวันนี้จนถึงวันเลือกตั้ง รัฐบาลชุดปัจจุบัน จะดูแลประคับประคองเศรษฐกิจให้เติบโตได้จนถึงวันส่งไม้ต่อให้รัฐบาลชุดใหม่ได้ ขณะที่รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาต้องมองถึงประโยชน์ส่วนรวม ร่วมกันแก้ไขปัญหา อย่าคิดแต่ด่าทอ หรือทะเลาะกัน ไม่เช่นนั้นจะส่งผลเสียต่อภายในประเทศได้ หากทุกอย่างไปได้ด้วยดี นโยบายและการลงทุนที่ยังมีความต่อเนื่อง เชื่อว่าหลังการเลือกตั้ง สถานการณ์เศรษฐกิจและภาพรวมในประเทศจะดีขึ้นแน่นอน

“เรามองว่า เลือกตั้งมีแน่นอน และคาดว่าช่วงกลางปีจะได้เห็นรัฐบาลชุดใหม่ว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไร แต่ที่ต้องจับตามอง คือ หากรัฐบาลใหม่เข้ามา นโยบายไปได้ดีในช่วงครึ่งปีหลัง ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ สถานการณ์ในประเทศจะดีแน่นอน ขณะที่นักการเมืองก็อย่าทะเลาะกัน ด่ากัน แต่อยากให้ทำงานร่วมกัน ช่วยกัน อย่านึกถึงประโยชน์ส่วนตัว หรือแต่กับพรรคการเมืองตัวเองเท่านั้น แต่ต้องรู้จักการร่วมกันระหว่างพรรคด้วย”นายสมคิด กล่าว

สำหรับในปี 2561 คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) จะขยายตัวได้ 4-4.2% โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการลงทุนเป็นสำคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ด้านการท่องเที่ยวเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว ขณะที่ปีนี้มองว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ดีหรือไม่ จะต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความสงบหรือไม่ การสานต่อนโยบายจะต่อเนื่องหรือไม่

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม คือ การดำเนินนโยบายด้านต่างประเทศของสหรัฐที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ที่จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย สะท้อนจากในช่วงที่ผ่านมา พบว่าการส่งออกปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของสหรัฐยังส่งผลกระทบต่อตลาดเงินทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดหุ้นทั่วโลกที่ผ่านมาผันผวนเช่นเดียวกัน

“สถานการณ์ความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายของสหรัฐ การที่อังกฤษจะออกจากอียู หรือแม้แต่เยอรมันจะเลือกตั้ง ทุกอย่างเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม โดยเฉพาะกับประเทศที่พึ่งพาการส่งออกสูง เช่น สิงคโปร์ ไต้หวัน จีน ไทย และนอกจากด้านการค้าแล้ว สิ่งที่กระทบต่อมาคือ การเงินทั่วโลก เห็นได้จากตลาดหุ้นเมื่อถูกกระทบ หรือเมื่อไหร่ที่หุ้นตก ความมั่งคั่งจะหายไปเลย ทำให้ตอนนี้ทุกคนมองว่าปีหมูทองจะเป็นหมูอยู่หรือไม่ ขณะที่การเลือกตั้ง ถือเป็นเรื่องที่นักลงทุนอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์ ว่าจะเป็นอย่างไร นโยบายจะต่อเนื่องหรือไม่”นายสมคิดกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่ยังมีความผันผวน ไทยยังคงมีโอกาสที่จะเติบโตได้ดีต่อไปได้ ด้วยการทำตัวเองให้มีจุดเด่นมากที่สุด ซึ่งจะต้องเปลี่ยนแปลง และปฎิรูปด้านเศรษฐกิจให้เป็นที่สนใจของนักลงทุน เพื่อให้นักลงทุนหันเข้ามาลงทุนในไทยมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย หรือเวียดนาม

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ไปศึกษาการลงทุนเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างอีอีซีไปยังเส้นทางชายฝั่งทะเลอันดามัน และอ่าวไทย หรือ Southern seaboard รวมถึงเส้นทางเชื่อมโยงตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ Northern seaboard เพื่อให้เกิดการเดินทางที่สะดวกต่อการลงทุนและการท่องเที่ยว