บอร์ดคัดเลือกประมูลแหลมฉบังเฟส 3 ระบุ คณะกรรมการอีอีซีถอย เตรียมแก้ประกาศปรับสัดส่วนความรับชอบผิดค่าเสียหาย ตามข้อเสนอกนักลงทุน ส่วนกทท. ถอยปรับแก้ทีโออาร์ด้วย เล็งเปิดขายซองรอบใหม่เร็วๆ นี้
ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยภายหลังการเปิดรับฟังความคิดเห็น ตอบข้อซักถามและความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โครงการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ขั้นที่ 3 ท่าเรือ F วงเงินลงทุนกว่า 8.4 หมื่นล้านบาท หลังจากที่ การท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) เปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอ โดยมีผู้เสนอรายเดียว และไม่ผ่านคุณสมบัติ ว่า มีนักลงทุนเข้าร่วมรับฟังทั้งสิ้น 32 ราย ซึ่งมีรายเก่าและรายใหม่ ทั้งไทยและต่างประเทศ
จากการรับฟังความเห็นพบว่า สาเหตุหลักที่นักลงทุนไม่สนใจยื่นซอง เนื่องจากมองว่า ทีโออาร์เข้มงวดมากเกินไป โดยเฉพาะสัดส่วนความรับผิดตามสัญญากรณีเกิดความเสียหาย ตามพ.ร.บ.อีอีซี ที่กำหนดให้นักลงทุนทุกรายต้องรับผิดชอบความผิดในสัดส่วนที่เท่าเทียมกัน แม้ว่าจะถือหุ้นในสัดส่วนที่แตกต่างกัน ซึ่งนักลงทุนมองว่าไม่เป็นธรรม
เบื้องต้นคณะกรรมการอีอีซี ได้รับข้อเสนอที่จะกลับไปปรับแก้ไข ประกาศ ตามพ.ร.บ.ใหม่ ให้รับผิดชอบตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยคณะกรรมการอีอีซี จะประชุมเพื่อแก้ไขประกาศ คาดว่า จะบังคับใช่ได้ในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ในส่วนของ กทท. จะต้องมีการปรับแก้ไขทีโออาร์เพื่อให้นักลงทุนคลายความกังวลมากขึ้น ซึ่งนักลงทุนแสดงความกังวลหลายเรื่อง อาทิ วิธีในการคิดต้นทุน การคำนวนภาษีโรงเรือน การให้ผลประโยชน์แก่ กทท. และเกณฑ์เรื่องประสบการณ์ที่กำหนดให้ต้องมีประวัติการบริหารท่าเรือปีละไม่ต่ำกว่า1ล้านบียูติดต่อกัน3ปี
ส่วนเรื่องระยะเวลาการจัดทำข้อเสนอที่กำหนดให้เอกชนต้องจัดทำข้อเสนอยื่นมาภายใน2เดือนหลังการประกาศขายซอง ไม่ใช่ปัญหา เพราะส่วนใหญ่เห็นว่าเหมาะสมแล้ว
“บ่ายนี้ คณะกรรมการคัดเลือกตะประชุมเพื่อทบทวนแก้ไขทีโออาร์หากได้ข้อสรุปก็จะรีบประกาศทีโออาร์และขายซองใหม่เร็วๆนี้”
อย่างไรก็ตามสำหรับนักลงทุนจำนวน 32รายที่เคยซื้อซองไปแล้วเมื่อครั้งก่อน กทท อาจจะให้ซองเอกสารฟรีโดยไม่ต้องซื้อใหม่ ส่วนนักลงทุนรายใหม่ต้องซื้อซองใหม่
